น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 801 ล้านบาท เพื่อการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย สอดคล้องกับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งการดำเนินการประกอบด้วย การจัดซื้อหน้ากากอนามัย กระทรวงพาณิชย์จัดซื้อโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิตตามกำลังผลิตที่มีอย่างเหมาะสม รวมถึงการกระจายหน้ากากอนามัยให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งหน้ากากอนามัยจากโรงงานผู้ผลิตไปให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อกระจายต่อไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ตามความเหมาะสม โดยระยะเวลาดำเนินการ เมษายน-ตุลาคม 2563
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ที่ 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้เป็น 2.8 ล้านชิ้นต่อวัน ในเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยอยู่ที่ 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้เป็น 2.8 ล้านชิ้นต่อวัน ในเดือนพฤษภาคมนี้