ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การหมั่นสังเกตอาการตนเองเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีประวัติสัมผัสกับพื้นที่เสี่ยงหรือกลุ่มเสี่ยง โดยอาการที่เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งคือ จมูกสูญเสียการได้กลิ่น ซึ่งถึงแม้อาการนี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของอีกหลายโรค แต่ก็ไม่ควรมองข้ามในสภาวะเช่นนี้
นพ.นัทพล ธรรมสิทธิ์บูรณ์ โสต ศอ นาสิกแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า การที่จมูกสูญเสียการได้กลิ่น เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทรับกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูก รวมถึงเนื้อเยื่อรอบๆมีการบวมอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น ไข้หวัด เส้นประสาทอักเสบ ไซนัสอักเสบ และริดสีดวงจมูก
โดยปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาการสูญเสียการได้กลิ่นเป็นหนึ่งในอาการของโรคติดเชื้อ COVID-19 แต่มีข้อมูลรายงานว่าคนไข้ส่วนหนึ่งที่เป็นโรคCOVID-19 มีอาการสูญเสียการได้กลิ่น เพราะฉะนั้นในสภาวะการระบาดของโรค COVID-19 หากมีอาการสูญเสียการได้กลิ่น หรือมีอาการเตือนอื่น ๆ เช่น ไอแห้ง เจ็บคอ ร่วมกับการมีประวัติสัมผัสกับพื้นที่เสี่ยงหรือกลุ่มเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อCOVID-19 ด้วยวิธีswab หรือ การเก็บสารคัดหลั่งในโพรงจมูกและช่องคอ เพื่อให้ได้คำตอบที่แน่ชัด
สำหรับตำแหน่งของการเก็บสารคัดหลั่งเพื่อความแม่นยำ ในทางการแพทย์จะเก็บที่บริเวณช่องหลังสุดของโพรงจมูกและช่องคอ เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวจะมีแผ่นน้ำเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งรวมสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเจอเชื้อโรคจากสารคัดหลั่งบริเวณนี้จะเยอะกว่าตำแหน่งอื่น
“ ในโพรงจมูกของทุกคนจะมีมูกอยู่ในภายเยอะ และจะค่อย ๆ ไหลลงคอผ่านช่องคอหลังโพรงจมูก ซึ่งไวรัสจะอาศัยอยู่ในมูก เพราะฉะนั้นการเก็บมูกหรือสารคัดหลั่งในบริเวณโพรงจมูกและช่องคอ จะทำให้ได้ตัวอย่างส่งตรวจที่มีประสิทธิภาพ โดยการเก็บสารคัดหลั่งบริเวณดังกล่าวควรทำโดยบุคลากรทางการแพทย์ เพราะเป็นตำแหน่งที่อยู่ลึก หากประชาชนทำเองอาจจะไม่ได้ตัวอย่างส่งตรวจเชื้อ COVID-19ที่ต้องการ “ นพ.นัทพล กล่าว