xs
xsm
sm
md
lg

สวธ.- ม.ราชภัฏ 38 แห่ง เตรียมนำมรดกภูมิปัญญาสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น หลังโควิดคลี่คลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวธ.ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ วางแผนนำมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างรายได้ให้ชุมชน หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

วันนี้ (25 มี.ค.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งทั่วประเทศ และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเตรียมการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 คลี่คลาย โดยใช้วัฒนธรรมและภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน และบูรณาการองค์ความรู้วิชาการที่สอดรับกับบริบทของพื้นที่ในทุกมิติเป็นตัวขับเคลื่อน สำหรับแผนปฏิบัติการจะดำเนินการทันทีเมื่อผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาด ได้แก่ 1. การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้กับวัฒนธรรมและมรดกทางภูมิปัญญาด้านวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน 2. จัดทำข้อมูลมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่นให้สามารถขึ้นทะเบียนระดับชาติและระดับสากล เพื่อสร้างฐานการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่จะนำรายได้มาสู่ชุมชนท้องถิ่น 3. สร้างการมีส่วนร่วมของนักศึกษา คณาจารย์ และชุมชนท้องถิ่นในลักษณะ Area Based ต่อยอดสร้างสรรค์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่มกลับคืนสู่ชุมชน และ 4. การพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมผ้าไทยสู่สากล ขยายตลาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับชุมชน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่งนั้น ถือเป็นสถาบันการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีการทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอยู่แล้วจะช่วยยกระดับในการนำองค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาที่ สวธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติไว้แล้วจำนวน 354 รายการ ได้ใช้ประโยชน์ และสามารถนำมาต่อยอดสร้างรายได้ โดยจะเดินหน้าสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมของคนในชุมชนให้เกิดความภาคภูมิใจ โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏจะนำองค์ความรู้ที่รวบรวมไว้มาเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรม และสร้างผลิตภัณฑ์ รวมถึงการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย โดยองคมนตรีได้กำชับให้การดำเนินการไม่ให้กระทบมาตรการทางสาธารณสุขในการป้องกันการเฝ้าระวังโควิด-19

“มหาวิทยาลัยจะมีการดำเนินงานถ่ายทอดองค์ความรู้แต่ละภูมิภาค เช่น การแสดงโปงลางของอีสาน การแสดงโนราห์ ของภาคใต้ ก็จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ สวธ. สำหรับปีนี้ จะเริ่มดำเนินการเรื่องผ้าท้องถิ่นเป็นหลัก เนื่องจากต่อยอดสร้างเศรษฐกิจได้เฉพาะคนที่ตกงานในช่วงสถานประกอบการหยุดงานชั่วคราว โดยประสานงานกับ ผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มีการจ้างงานการตัดเย็บ และทอผ้า ให้มีรายได้ระหว่างการไม่มีงานทำ พร้อมกันนี้ จะมีการศึกษารวบรวมข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับผ้าท้องถิ่นในภูมิภาคต่างๆ จัดทำหนังสือแนะนำแนวโน้มการตัดเย็บผ้า และคุณสมบัติของตัวผ้าพื้นถิ่นแต่ละชนิดให้กับผู้ประกอบการ โดยที่ สวธ.จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาตลาดรองรับ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการส่งออก โดยจัดทำเป็นสินค้าวัฒนธรรมไทย หรือ ซีพอต 5 ดาวรองรับการจำหน่ายในตลาดต่างๆ ด้วย” รมว.วัฒนธรรม กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น