สธ.เผยเตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ใน กทม.และปริมณฑล รวมกว่าพันเตียง จะทยอยเปิดใช้ หากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น พร้อมประสานโรงแรม สนามกีฬา เปิดเป็นหอพักดูแลผู้ป่วยโควิดที่อาการน้อย หรือใกล้หายแล้ว เพื่อพักฟื้น
วันนี้ (17 มี.ค.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้เนื่องจากผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) สธ.จึงได้มีการเตรียมความพร้อมหากมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยให้พื้นที่ปริมณฑลจัดเตรียมโรงพยาบาลเพื่อเปิดวอร์ดดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ ในกลุ่มที่มีอาการน้อย อาการดีขึ้นจะกลับบ้าน ซึ่งวันนี้พร้อมเปิดได้ทันที 234 เตียง นอกจากนี้ ยังมีการประสานกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขอประสานให้โรงเรียนกีฬา สนามกีฬา โรงแรม ที่มีความสนใจรับผู้ป่วย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ประชุมระหว่างกรมการแพทย์และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ต่างๆ เช่น อาการดี ไม่มีการแพร่เชื้อแล้ว แต่ต้องการพักฟื้นก็อาจจัดให้อยู่ในสถานที่เหล่านี้ ซึ่ง ก.ท่องเที่ยวฯ ได้ติดตามประสานงานอย่างน้อย 4 พันแห่ง ซึ่งก็ต้องมีเวลาไปดูมาตรฐานและติดตามการให้บริการ
นพ.สุขุม กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 หาที่รักษาไม่ได้นั้น ก็ขอให้แจ้งประสานเข้ามาจะได้เข้าไปช่วยเหลือดูแล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็มีนโยบายว่า รพ.ไหนที่รับการตรวจยืนยันก็ให้รับการรักษาที่ รพ.นั้น ซึ่งในส่วนของ รพ.เอกชน นายกรัฐมนตรีก็ให้นโยบายชัดเจน โดยให้รักษาการอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานคณะทำงานร่วมกับ สธ.ในการกำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสม เพื่อของบกลางสนับสนุนการดูแลพี่น้องคนไทย ทั้งนี้ ค่ารักษาพยาบาลโรคโควิด-19 ไม่ต้องจ่ายเงินไม่ว่าจะเป็น รพ.รัฐ หรือ รพ.เอกชน และไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน ถ้าหากมีการเรียกเก็บเงินสามารถ โทร. 1669 และรายงานได้ว่าป่วยเป็นโรคนี้มีผลแล็บยืนยันชัดเจน หรือแจ้งไปยังกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเพื่อเอาผิด รพ.เอกชนแห่งนั้นๆ ได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.ทุกสังกัดดำเนินการเหมือนกัน คือ ลดจำนวนผู้ป่วยไม่เร่งด่วนที่มารับบริการให้ไปรับยาที่ร้านขายยาหรือจัดบริการใกล้บ้าน เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน รพ. การจัดคลินิกไข้หวัดพยายามแยกคนไข้เสี่ยงโควิด-19 ไปตรวจ ส่วนเรื่องความพร้อมของเตียงเรามีการหารือกันทั้งในส่วนของ สธ. มหาวิทยาลัย กทม. เหล่าทัพ ตำรวจ และเอกชน ขณะนี้ รพ.ภาครัฐใน กทม.มีเตียงรองรับอยู่ประมาณ 200 กว่าเตียง แต่หากยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นก็จะมีการเปิดวอร์ดดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในหลาย รพ.และมีการขอความร่วมมือ รพ.เอกชน หากรับตรวจก็ให้รับการรักษาด้วย
“การเปิดวอร์ดดูแลคนไข้โควิด-19 หรือ โคฮอดวอร์ด ล่าสุด รพ.เลิดสิน เปิดแล้ว สถาบันโรคทรวงอกจะเปิดวันที่ 18 มี.ค. รพ.ราชวิถี จะเปิดอีก 40 เตียง หรืออย่าง รพ.บางบัวทอง 2 จะรับได้อีก 19 เตียง รพ.บางขุนเทียน ซึ่งเปิดได้ทันทีประมาณ 30 เตียง แต่หากเปิดเต็มศักยภาพก็ได้ 200 เตียง แต่ต้องหาเจ้าหน้าที่ไปเพิ่ม รพ.ของกรมุสขภาพจิต 200 เตียง รพ.ทหารอากาศทุ่งสีกัน 20-30 เตียง แต่อาจจะเพิ่มได้ประมาณ 150 เตียง รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร เปิดแล้ว 10 กว่าเตียง ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รพ.วิภารามชัยปราการ เป็นรพ.ว่างมีเตียงร้องรับ ก็หารือว่าจะรับในส่วนของ รพ.เอกชนขนาดเล็กที่ไม่สามารถดูแลได้ และ รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่ยกให้ทั้งตึกประมาณ 100 เตียง ตอนนี้เตียงสถานพยาบาลรวมๆ มาได้กว่า 1 พันเตียง แต่ไม่ได้จะเปิดทีเดียวทั้งหมด อยู่ที่ว่ามีคนไข้มากน้อยแค่ไหน” นพ.สมศักดิ์ กล่าว
นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า แต่ถ้าคนเยอะจริงๆ เรามีการเตรียมแผนเป็นหอพักหรือโรงแรม ซึ่งอาจเป็นเดือนหน้า ซึ่งต้องอาศัยสมาคมโรงแรมช่วยกัน ทั้งนี้ หากเดือนหน้ามีคนป้วยเยอะจริงๆ หลักการยืนยันว่า ทุกคนต้องนอน รพ. 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมง เพราะเรามีคนไข้โควิด-19 ที่เข้ามาอาการดีๆ แต่ 48 ชั่วโมงเป็นปอดบวม ดังนั้น ต้องนอน รพ.ก่อน หากคนไข้อาการดีขึ้นหรือไม่มีไข้แล้ว ก็จะส่งไปนอนที่หอพักหรือโรงแรม แต่หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ สำหรับบุคลากร การเปิดวอร์ดโควิด-19 ยังสามารถใช้บุคลากรเดิมได้ แต่จะมีการระดมแพทย์ พยาบาลในต่างจังหวัดมาช่วยด้วย รวมถึงประสานแพทย์ พยาบาลที่เกษียณอายุแล้วให้มาช่วยเหลือ โดยในส่วนที่มาช่วยดูวอร์ดโควิด หรือคนไข้ที่ย้ายไปยังโรงแรม ซึ่งอาการไม่หนักนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นแพทย์โรคติดเชื้อ แต่หากเป็นคนไข้หนักต้องการหมอเฉพาะทาง
เมื่อถามถึงกรณีคนมาตรวจยืนยันเชื้อแล้วคุกคามเจ้าหน้าที่ด้วยการไอใส่ นพ.สุขุม กล่าวว่า เช่นนี้ถือว่ามีเจตนาแพร่เชื้อโรค ก็มีโทษทางอาญา ก็คล้ายกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่รู้ว่าตัวเองป่วยแล้วจงใจแพร่เชื้อถือว่ามีความผิด
