xs
xsm
sm
md
lg

ความดันลูกตาสูง อาจเสี่ยงต้อหินก่อนสูงวัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย...พญ.เกศรินท์ เกียรติเสวี จักษุแพทย์ผู้ชำนาญโรคต้อหิน โรงพยาบาลกรุงเทพ

โรคต้อหิน ถือเป็นหนึ่งในปัญหาดวงตาที่อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้ และสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ก็คือ โรคต้อหินนั้น ไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า และไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ควรละเลย คือ ความดันตาสูงผิดปกติ ที่อาจบ่งบอกว่าเป็นต้อหินได้เช่นกัน การใส่ใจรู้เท่าทันโรคต้อหินเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจะได้รับมือได้ทันท่วงที

ต้อหินคือ โรคความเสื่อมขั้วประสาทตาที่ทำให้สูญเสียการมองเห็น แบ่งออกเป็นต้อหินปฐมภูมิ (Primary Glaucoma) ชนิดมุมเปิด (Primary Open-Angle Glaucoma) ชนิดมุมปิด (Primary Angle-Closure Glaucoma) ต้อหินทุติยภูมิ (Secondary Glaucoma) และ ต้อหินแต่กำเนิด (Congenital Glaucoma) ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยง ได้แก่

1. อายุ 40 ปีขึ้นไป ปัจจุบันโรคต้อหินไม่ได้เกิดกับผู้สูงวัยเท่านั้น แต่สามารถเกิดในวัย 40+ ได้ คนที่อายุมากมีความเสี่ยงมากกว่าคนอายุน้อย

2. ความดันตาสูงมากกว่า 21 มม.ปรอท

3. มีประวัติในครอบครัวเป็นต้อหิน โดยเฉพาะพี่น้อง

4. สายตาสั้นมาก หรือสายตายาวมาก ผู้ที่สายตาสั้น 100-300 เพิ่มความเสี่ยงต้อหินมากกว่าคนปกติ 2-3 เท่า

5. ใช้ยาสเตียรอยด์ หรือยารักษาข้อเสื่อมบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน

6. โรคประจำตัว ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยต้อหินเฉียบพลันส่วนใหญ่มักเป็นข้างเดียว อาจจะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่าความดันตาสูงและเสี่ยงเป็นต้อหิน ได้แก่ ปวดตา ตาแดง ตามัว น้ำตาไหล เห็นรุ้งรอบดวงไฟ เป็นต้น

ความดันตาสูงเสี่ยงต้อหินได้อย่างไร เนื่องจากความดันตา มีความแตกต่างกันไประหว่างบุคคล เวลาที่วัด เครื่องมือที่วัด ความดันตาสูง เป็นภาวะที่ความดันลูกตามีค่ามากกว่า 21 มม.ปรอท ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่โรคต้อหิน หากปล่อยไว้จะส่งผลให้ประสาทตาถูกทำลาย การมองเห็นมัวลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นตาบอดได้ แต่การที่ความดันตาสูงไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคต้อหินทุกคน ฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองโดยจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญ นอกจากนี้การทำกิจกรรมบางประเภทมีส่วนที่ทำให้ความดันตาสูงขึ้น ได้แก่ ดำน้ำ ยกน้ำหนัก เป่าเครื่องดนตรี เป็นต้น ควรระมัดระวังและสังเกตตนเอง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้น

วิธีการลดความดันตาเพื่อรักษาต้อหินต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้น เพื่อจะได้รับการรักษาที่เหมาะสม โดยจะพิจารณาจากชนิด อาการ และความรุนแรงของผู้ป่วย ได้แก่ 1. การใช้ยาหยอดตา 2. การใช้ยารับประทาน 3. การใช้ยาฉีดเข้าเส้นเลือด 4. การใช้เลเซอร์ และ 5. การผ่าตัด

ฉะนั้น ผู้ที่เป็นต้อหินควรพบจักษุแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ แม้ต้อหินจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากประสาทตาถูกทำลาย แต่การรักษาอย่างถูกวิธีกับจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญจะช่วยป้องกันไม่ให้ประสาทตาถูกทำลายและเสื่อมมากขึ้นไปกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ในคนที่มีอาการต้องสงสัยว่ามีความเสี่ยงเป็นต้อหิน หรือมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ควรรีบพบจักษุแพทย์โดยเร็ว




กำลังโหลดความคิดเห็น