นายกฯ มอบ วธ.บันทึกจดหมายเหตุโคราช เน้นแง่มุมดีสะท้อนคนไทยมีน้ำใจช่วยเหลือสังคม เตรียมจัดกิจกรรมเยียวยาจิตใจคนพื้นที่
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ดำเนินการจัดทำหนังสือจดหมายเหตุเหตุการณ์ ที่ จ.นครราชสีมา ลักษณะคล้ายกับการบันทึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์ ช่วยชีวิต 13 หมูป่า ออกจากวนอุทยานถ้ำหลวง- ขุนน้ำนางนอน ซึ่งการจัดทำจดหมายเหตุการณ์ฉบับนี้ให้เน้นในด้านสิ่งที่ดีๆ การช่วยเหลือของสังคม การบริจาค จิตอาสา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ พระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับทั้ง 27 ศพ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานเพลิงศพ ทั้งนี้มุ่งหมายให้เป็นเครื่องเตือนใจ แสดงความมีน้ำใจของคนไทย โดยตนสั่งการให้สำนักหอจดหมายเหตุ กรมศิลปากร รับไปดำเนินการ โดยให้รวบรวมลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ ซึ่งจะเก็บรวบรวมทั้งภาพ บันทึกเหตุการณ์ จากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เรื่องเล่า และการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ในการทำหนังสือจดหมายเหตุครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย ที่แสดงออกอย่างชัดเจน อย่างเช่นการไว้อาลัย พิธีทางศาสนา และการบริจาค นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ทำประกาศเกียรติคุณในการยกย่องบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง เช่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่แจ้งจุดทางออกให้ประชาชน ผู้ที่นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ฯลฯ ก่อนที่จะนำมารวบรวมออกมาเป็นหนังสือจดหมายเหตุ ซึ่งจะจัดทำให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย ในภาพรวมรัฐบาลได้ใช้กองทุนผู้ประสบสาธารณะภัยของสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วน วธ.จะเยียวยาทางสังคม โดยใช้มิติทางวัฒนธรรม ไปร่วมช่วยสร้างสังคมให้ดีขึ้น นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังฝากให้ วธ. หาแนวทางใช้พลังบวร มาฟื้นฟูสภาพจิตใจประชาชนในพื้นที่ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นทั่วประเทศอีก
รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ทาง วธ.จะประสานไปยังเครือข่ายศิลปินในพื้นที่ สภาวัฒนธรรมจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สานต่อกิจกรรมที่สร้างสรรค์สู่ชาวโคราช ส่วนผู้ประสบเหตุอยู่ในจังหวัดอื่นๆ ได้มีการประสานสภาวัฒนธรรม เข้าไปดูแลสภาพความเป็นอยู่และจิตใจด้วย อย่างไรก็ตาม นายกฯ แสดงความเป็นห่วง การดูแลทายาท และ ผู้ได้รับเงินเยียวยา อยากให้ดูแลอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะลูกหลานที่ยังศึกษาเล่าเรียนอยู่ อยากให้เงินเยียวยาเหล่านี้สามารถใช้ได้ในระยะหนึ่ง แต่ไม่ใช่สั้นเกินไป