ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ธารน้ำใจหลั่งไหลไม่หยุด หลังปิดบัญชียังบริจาคช่วยเหลือเหยื่อกราดยิงโคราชเพิ่มอีก รวมยอดเงินพุ่ง 89.9 ล้าน ทางจังหวัดฯ นำไปจ่ายเพิ่มผู้เสียชีวิตเป็นรายละ 2.4 ล้าน พิการถาวร 3.5 ล้าน และบาดเจ็บหกเดือน 3 ล้าน
วันนี้ (19 ก.พ.) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงยอดเงินรับบริจาคและการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุการณ์กราดยิงประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 8-9 ก.พ. ว่า หลังจากที่ทางจังหวัดฯ ได้เปิดรับบริจาคผ่านบัญชี ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเทอร์มินอล 21 โดยจังหวัดนครราชสีมา เลขที่บัญชี 678-9-97951-4 ธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดเซฟวัน และปิดบัญชีรับบริจาคไปเมื่อเวลา 16.00 น. ในวันที่ 16 ก.พ. มียอดเงินบริจาคทั้งหมดกว่า 82 ล้านบาท ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว 29 ล้านบาท เหลือเงินอยู่ในบัญชี 53 ล้านบาท โดยวันที่ 17 ก.พ. มีการเคลียริ่งเช็คมีเงินเข้ามาอีก 4,789,392 บาท ยอดเงินรวมเป็น 87,250,000 บาท ล่าสุดมีการบริจาคเงินเข้ามาเพิ่มเติมอีก 3 ราย ทำให้มียอดเงินบริจาค ณ เวลา18.30 น. วันที่ 18 ก.พ. รวมทั้งสิ้นเป็น 89,936,633.43 บาท
ฉะนั้น ทางจังหวัดฯ จึงได้มีการประชุมการเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้พิการถาวร และผู้บาดเจ็บ เพื่อพิจารณายอดเงินที่ได้มาเพิ่มอีกหลังจากจ่ายผู้เสียชีวิตและพิการถาวรไปแล้วรายละ 2 ล้านบาท ที่ประชุมจึงมีมติให้ช่วยเหลือเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู 4 ราย ที่คาดว่าจะต้องพิการถาวร 3 ราย เพิ่มให้อีกรายละ 1.5 ล้านบาท ฉะนั้นคนพิการถาวรรุนแรงจะได้รายละ 3.5 ล้านบาท เพราะต้องรักษาอยู่อีกนานและต้องมีคนคอยดูแล และอีก 1 ราย เสี่ยงต่อการพิการต้องรักษาตัวไม่น้อยกว่า 5-6 เดือน จะจ่ายเพิ่มให้อีก 1 ล้านบาท สรุปผู้บาดเจ็บรายนี้จะได้เป็น 3 ล้านบาท
นอกจากนั้น จะเอาเงินไปจ่ายเพิ่มให้แก่ผู้บาดเจ็บหนัก บาดเจ็บปานกลาง อีก 1 เท่าตัว หรือรายละ 4 แสนบาท รายละ 2 แสนบาท ขณะนี้กำลังทำตัวเลขอยู่ และเงินเหลือจะนำไปให้ผู้เสียชีวิตอีก 27 ราย โดยตัวเลขคร่าวๆ ตอนนี้คือ ผู้เสียชีวิตจะได้รายละประมาณ 2.4 ล้านบาท ส่วนคนบาดเจ็บรักษานาน 6 เดือนขึ้นไปหรือพิการถาวร ปานกลาง จะได้ 3 ล้านบาท ส่วนคนบาดเจ็บหนักและบาดเจ็บปานกลาง จะได้รายละ 4 แสน และ 2 แสนบาท ตามลำดับ ส่วนบาดเจ็บเล็กน้อยจะได้รายละ 2 หมื่นบาท เหมือนเดิม
“โดยตัวเลขที่ชัดเจนเป็นทางการจะมีการประชุมอีกครั้งและจะไม่มีการรับบริจาคอีกแล้ว ซึ่งเงินเยียวยาตรงนี้ไม่เกี่ยวกับเงินช่วยเหลือเยียวยาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบที่หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นกองทุนของสำนักนายกรัฐมนตรี” นายวิเชียรกล่าวในตอนท้าย
