กรมแพทย์แผนไทย ชู "ยาปราบชมพูทวีป" ช่วยบรรเทาอาการหวัด ภูมิแพ้อากาศได้ผลดี ผลวิจัยชี้ไม่แตกต่างจากยาลอราทาดีน แต่ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้
วันนี้ (12 ก.พ.) นพ.สรรพงศ์ ฤทธิรักษา รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยสภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน รวมถึงเกิดมลพิษทางอากาศ ฝุ่นควัน และการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคที่มักจะเกิดในช่วงนี้ ได้แก่ หวัด น้ำมูกไหล ภูมิแพ้อากาศ หากติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำจะทำให้อาการของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้ที่ควรดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ คือ ผู้ที่มีโรคประจำตัวและผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ขอแนะนำตำรับยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ คือ ยาปราบชมพูทวีป มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหวัด ภูมิแพ้อากาศได้ผลดี
นพ.สรรพงศ์ กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิผลการใช้ยาปราบชมพูทวีปกับยาลอราทาดีน (Loratadine) ในผู้ป่วยภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนต้นของ รพ.ปทุมธานี พบว่า ยาปราบชมพูทวีป สามารถบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล รวมถึงอาการไอ ปวดศีรษะ ได้ไม่แตกต่างกับยาลอราทาดีน และยังพบว่ายาปราบชมพูทวีปมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากในส่วนประกอบของตำรับมีสมุนไพรรสร้อน เช่น พริกไทยดำ ดีปลี ลูกกระวาน เหง้าขิง ฯลณ ขนาดและวิธีใช้ยาปราบชมพูทวีป รับประทานครั้งละ 750 มิลลิกรัม – 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน ข้อห้ามใช้ คือ ผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ มีไข้สูง เสมหะมีสีเขียวเหลือง ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และเด็กที่มีไข้ ข้อควรระวัง ระวังการใช้กับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ กรดไหลย้อน และผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร เนื่องจากเป็นตำรับยาที่มีฤทธิ์ร้อน และควรระวังการใช้ในผู้ที่เป็นโรคตับและไตเรื้อรัง โดยยาดังกล่าวสามารถสั่งจ่ายโดยแพทย์แผนไทย/แพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งเบิกได้ตามสิทธิ์การรักษาในคลินิกการแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ
"การดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้อากาศ คือ การป้องกันก่อนป่วย หากมีเหตุจำเป็นต้องออกไปในสถานที่โล่งแจ้ง ให้สวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ และควรล้างมือ ให้สะอาดและล้างบ่อยครั้ง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรเป็นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้วัตถุดิบที่สด สะอาด ปราศจากแมลงวันตอมหรือสัมผัสกับฝุ่นละออง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ" นพ.สรรพงศ์ กล่าว