สธ.แถลงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เพิ่มอีก 6 ราย พบ 2 ราย เป็นคู่สามีภรรยาชาวไทยกลับจากเที่ยวญี่ปุ่น ยังสรุปไม่ได้ติดจากญี่ปุ่นหรือไทย อีก 2 ราย เป็นคนขับรถรับจ้างติดจากผู้โดยสารชาวจีน หนึ่งในนี้มีอาการหนักรุนแรง เหตุติดทั้งเชื้อวัณโรคและโคโรนา อยู่ระหว่างพิจารณาให้ยาต้านไวรัสหรือไม่ หวั่นยาตีกัน ส่วนอีก 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจีน ระบุ 5 ราย ที่เหลืออาการดี รอผลเป็นลบออกจาก รพ.ได้ ส่งผลยอดล่าสุดป่วยสะสม 25 ราย หายแล้ว 8 ราย เหลือ 17 ราย ส่วนเคสเกาหลีใต้อาจติดได้ทั้งจากในไทยและเกาหลี
วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่ออุบัติใหม่ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านคลินิก ด้านระบาดวิทยา และด้านห้องปฏิบัติการ สรุปรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่มขึ้นอีก 6 ราย ส่งผลให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 25 ราย รักษาหายแล้ว 8 ราย เหลือรักษาใน รพ.อีก 17 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย พบว่า 2 รายแรก เป็นคู่สามีภรรยาชาวไทย มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ส่วน 2 รายต่อมา เป็นคนไทย โดยมีอาชีพขับรถรับจ้างอิสระ ที่มีการรับผู้โดยสารชาวจีน และอีก 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน สำหรับอาการนั้นพบว่า 5 ราย มีอาการดีขึ้น รอให้มีผลตรวจเชื้อเป็นลบ ก็จะอนุญาตให้ออกจาก รพ.ได้ ส่วนอีกรายมีอาการหนัก โดยได้รับส่งต่อจาก รพ.เอกชน เข้ามายังสถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563 สภาพแรกรับได้ใส่ท่อช่วยหายใจ โดยผลการวินิจัยพบว่า เป็นวัณโรคและติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับกรณีชาวเกาหลีใต้ที่กลับจากเที่ยวประเทศไทยแล้ว พบว่า ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 กำลังอยู่ระหว่างการประสานข้อมูลไปยังจุดประสานทางกฎอนามัยระหว่างประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสอบสวนทางระบาดวิทยาเพิ่มเติม ซึ่งตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญนั้น ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการติดจากประเทศไทยหรือไม่ เพราะอาจจะติดได้ทั้งที่ไทยและเกาหลี เพราะที่เกาหลีก็มีการติดต่อภายในประเทศ เช่นเดียวกับกรณีสามีภรรยาชาวไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าติดจากที่ไหน ก็จะมีการประสานขอข้อมูลต่างๆ กับจุดประสานกฎอนามัยระหว่างประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน เพื่อดำเนินการสอบสวนโรค สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 6 รายมีการติดตามเฝ้าระวังตามระบบ
เมื่อถามถึงเคสที่มีอาการรุนแรงเป็นเคสคนไทยหรือคนจีน นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นคนไทยอายุประมาณ 70 ปี มีประวัติเคยส่งรับกรุ๊ปทัวร์ชาวจีน เมื่อมีอาการป่วย ก็รับเข้ามาตรวจและรักษา จึงพบว่ามีการติดเชื้อทั้งวัณโรคและเชื้อดังกล่าว โดยส่งต่อจาก รพ.เอกชน มายังสถาบันบำราศฯ
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า ที่มีอาการหนักเนื่องจากรายนี้เป็นผู้สูงอายุ และติด 2 โรครุมเร้า ก็เป็นเรื่องที่ต้องดูแลต่อไป ซึ่งวัณโรคเราสามารถรักษาได้ด้วยการให้ยารักษาวัณโรค แต่ส่วนของไวรัสโคโรนา กำลังพิจารณาจะมีการให้ยาต้านไวรัสเสริมหรือไม่ ซึ่งแพทย์กำลังพิจารณา เพราะการให้ยาต้านไวรัสเสริม ขณะที่ให้ยาวัณโรคอยู่ ก็อาจมีการขัดแย้งของยาที่ให้ได้ จึงต้องคิดให้หนัก
