วธ.ดันงบ 63 ฟื้นวิถีชีวิตชายแดนใต้-พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมสร้างเศรษฐกิจฐานราก-เนรมิตรโรงละคร
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตนได้นำมติการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ที่จ.ยะลา แจ้งต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้หน่วยงานในสังกัด วธ. เร่งขับเคลื่อนงาน ได้แก่ การส่งเสริมพหุวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา ภาษา ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดทิศทางการพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม และสร้างความสงบสุข ภายใต้วิสัยทัศน์การพัฒนา คือ “เกษตรก้าวหน้า การค้าชายแดน การท่องเที่ยวเชื่อมโยงสู่อาเซียนบนพื้นฐานความเข้มแข็งของชุมชนผ่านยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และมิติทางวัฒนธรรมเป็นสื่อกลาง และต่อยอดสร้างเศรษฐกิจชุมชน โดยมีแผนงาน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.ส่งเสริมวิถีชีวิตและสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง เช่น จัดทำงานวิจัยพฤติกรรมเยาวชนชายแดนใต้ ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีและอัตลักษณ์ท้องถิ่น เปิดพื้นที่กลางทางพหุวัฒนธรรม เพื่อให้บริการแก่ชุมชนในกลุ่มเด็ก เยาวชน ประชาชน รวมทั้งส่งเสริมกิจกรรมการปฏิบัติตามหลักศาสนา
2.นำหลักพลังบวร หรือ บรม บ้าน โรงเรียน มัสยิด มาส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเพื่อสร้างคนดี สังคมดี และ 3. ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยเพิ่มศักยภาพแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชื่อมโยง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาทิ พัฒนาพิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาสพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน และจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดชายแดนใต้ จ.นราธิวาส ส่งเสริมองค์ความรู้ อนุรักษ์และพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีและวัฒนธรรม อาทิ เมืองโบราณยะรัง จ.ปัตตานี พัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (ซีพอต)ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของดีบ้านฉันชายแดนใต้ ยกระดับเทศกาลประเพณีและกิจกรรมทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กิจกรรมถนนคนเดิน ตลาดประชารัฐ ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง รวมทั้งดำเนินการศึกษาและออกแบบศูนย์วัฒนธรรมชายแดนใต้ จ.นราธิวาส ให้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมตามความต้องการของคนในพื้นที่อีกด้วย
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า ตนยังเร่งรัดการดำเนินการจัดทำคำของบประมาณปี 64 ที่มีการตั้งยอดคำขอเสนอมาแล้ววงเงินกว่า 18,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่างบที่ได้รับในปี 63 จำนวนกว่า 8,500 ล้านบาทถือว่าเป็นงบที่ขอตั้งเพิ่มขึ้นถึง 117% จึงย้ำให้หัวหน้าส่วนราชการเร่งจัดทำคำของบประมาณ เตรียมความพร้อมตั้งแต่การทำแบบรายละเอียด การจัดซื้อจัดจ้าง เมื่องบปี 64 ได้รับการอนุมัติจะได้จะดำเนินการทันทีไม่ล่าช้า ส่วนงบปี 63 จะเร่งรัดการเบิกจ่ายเป็นรายไตรมาส เนื่องจากไตรมาสแรกการเบิกจ่ายยังต่ำกว่าเป้าหมาย ดังนั้นจะต้องกระตุ้นให้ไตรมาส 2 เบิกจ่ายได้ตามเป้า รวมไปถึงการเบิกจ่ายงบผูกพันข้ามปีโครงการเกิน 1,000 ล้านบาท ล่าสุดครม.ได้อนุมัติงบโครงการพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่ให้บริการทางวัฒนธรรมระดับนานาชาติระยะที่ 2 วงเงินกว่า 3,000 ล้านบาทมีการจัดสร้างโรงละครห้องประชุมสัมมนา ห้องฉายภาพยนตร์ ศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรม ลานวัฒนธรรม หากดำเนินการแล้วเสร็จไทยจะมีพื้นที่บริการและสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางระดับนานาชาติเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวัฒนธรรม และจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศแบบครบวงจรด้วย
