โดย...นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค และราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย
หลังคณะกรรมการด้านสาธารณสุขเทศบาลเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของประเทศจีน ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสปอดอักเสบและถูกแยกรักษาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2563 แล้วจำนวนทั้งสิ้น 59 ราย โดย 41 ราย มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบว่าก่อให้เกิดโรคในคนมาก่อน ในจํานวนนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายจากโรคประจำตัวที่มีอยู่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีนเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 5-15 มกราคม 2563 ดังนั้น ผลการสอบสวนโรคตัดความเป็นไปได้ว่าเชื้อที่ระบาดอยู่นี้เป็นโรคทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลันหรือซาร์ส ที่คุ้นเคยและเคยทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยรายเมื่อ 10 ปีก่อน และยืนยันว่าไม่ใช่โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส รวมถึงไข้หวัดนก และอดิโนไวรัส
เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ป่วยหลายคนทํางานที่ตลาดอาหารทะเลจีนใต้ ซึ่งขายสัตว์มีชีวิตอื่นๆ ด้วย บ่งชี้ว่าเชื้อนี้อาจเกี่ยวโยงกับสัตว์ อาการส่วนใหญ่ที่พบในคนไข้ เป็นอาการโรคทางเดินหายใจและปอดอักเสบที่พบทั่วไป ได้แก่ เป็นไข้ หายใจลําบาก
ผู้เข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจรุนแรงนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นภายใน 14 วันและมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และ/หรือมีอาการหอบเหนื่อย ณ.วันที่ 14 มกราคม 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ดําเนินการเฝ้าระวังคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานภูเก็ต
สรุปยอดผู้ป่วยเข้าได้กับเกณฑ์เข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังตั้งแต่เริ่มใช้มาตรการเฝ้าระวังเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2563 จํานวน 15 ราย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบสาเหตุจากไข้หวัดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ มีผู้ป่วยหนึ่งรายเป็นหญิงชาวจีนอายุ 61 ปีที่มีปอดอักเสบได้รับการยืนยันวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งนับว่าเป็นผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทยและเป็นรายแรกที่ได้รับการยืนยันวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นอกประเทศจีน
หน่วยงานภาครัฐในประเทศโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้จัดการแจ้งและเตรียมความพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว มีการตรวจสอบเที่ยวบินตามสนามบิน และได้เตรียมพื้นที่กักในสถานพยาบาลใกล้เคียงไว้แล้ว และมีการดําเนินการเฝ้าระวังส่งต่อผู้ป่วย รวมถึงสํารวจความพร้อมของห้องแยกความดันลบในสถานพยาบาลและเวชภัณฑ์ต่างๆ
ประชาชนควรติดตามสถานการณ์ข่าวสารผู้ป่วยในต่างประเทศและผู้เข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังภายในประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และแนะนำผู้ที่จะเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นหรือสถานที่ใกล้เคียงในเรื่องพฤติกรรมสุขภาพควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์ และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ