สธ.เผยไอคิวเด็กไทยดีขึ้น ตั้งเป้าปี 64 ต้องไม่ต่ำกว่า 100 จุด อีคิวไม่ต่กว่า 80 จุด สั่งทุกจังหวัดลดอัตราตายมารดา เพิ่มพัมนาการเด็กสมวัย ลุยเน้นผู้ปกครองเล่นกับลูก สร้างสัมพันธภาพ พร้อมเปิดเพจลูกเล่น by ราชานุกูล จัด 20 กูรูให้คำปรึกษา เป็นของขวัญวันเด็ก
วันนี้ (10 ม.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงานวันเด็กแห่งขาติประจําปี 2563 ที่สถาบันราชานุกูล ว่า ปัจจุบันเด็กที่มีพัฒนาการที่ไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไปมีน้อยลง เพราะสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต ได้มีการดูแลและพัฒนาวิธีการดูแลเด็กกลุ่มนี้ ร่วมกับการเตรียมการตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ รวมถึงการดูแลระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เด็กเกิดมาครบสมบูรณ์ นอกจากนี้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังมีการดูแลเด็กกลุ่มนี้อย่างดี โดยจะเน้นเรื่องผู้ปกครองเป็นหลัก ให้ผู้ปกครองได้เล่นกับลูกของตัวเองเพื่อซึมซับความผูกพันและสร้างพัฒนาการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ระดับความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) โดยรวมของเด็กไทยดีขึ้น ส่วนระดับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ต้องมีการส่งเสริมโดยให้เด็กได้ไปสัมผัสกับสังคม เช่น การไปโรงเรียนจะทำให้ EQ เด็กดีขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องส่งเสริมให้มีการพัฒนาควบคู่กันทั้ง IQ และ EQ เพราะหากมีเพียง IQ อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งหากทำได้เด็กไทยจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป
“สถาบันราชานุกูล มีนวัตกรรมการพัฒนาเด็กไทย คิดเป็น คิดดี คิดให้ ด้วยสายใยพันผูก ใช้เป็นแนวทางให้ผู้ปกครองเด็กวัย 3 – 5 ขวบ ใช้การเล่นส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของลูก โดยไม่จำเป็นต้องจัดหาของเล่นหรืออุปกรณ์การเล่นที่ราคาแพง หายาก เน้นให้สมาชิกในครอบครัวมีการสื่อสาร สร้างสัมพันธภาพ ระหว่างพ่อแม่กับลูกผ่านการเล่น สร้างความผูกพันทางอารมณ์ ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกันในชีวิตประจำวัน ได้แก่ การกิน การสัมผัส การเล่น และการเล่า นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวเฟซบุ๊กแฟนเพจ ในชื่อ “ลูกเล่น by ราชานุกูล” เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารแบบออนไลน์ของประชาชนกับทีมสหวิชาชีพผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก จำนวน 20 คน โดยนำเสนอแนวทางการเล่นและการเลี้ยงดูลูกให้เป็นเด็กไทย “คิดเป็น คิดดี คิดให้” ในรูปแบบคลิปวิดีโอที่สนุกสนานได้ความรู้ พร้อมเคล็ดลับจากกูรูที่น่าสนใจมาแลกเปลี่ยนกัน พร้อมกันนี้ได้ให้ทุกจังหวัดดำเนินการ 2 เรื่อง ได้แก่ การลดอัตราตายของมารดาไม่เกิน 20 ต่อการเกิดมีชีพแสนคน และเด็กมีพัฒนาการสมวัยไม่ น้อยกว่า ร้อยละ 85 ผ่านคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก” นายสาธิต กล่าว
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการ สํารวจ IQ และ EQ เด็กไทยของกรมสุขภาพจิต ในปี 2559 พบเด็กไทยมีระดับไอคิว 98.23 จุด และร้อยละ 16.7 มีอีคิวต่ำกว่าปกติ กรมสุขภาพจิตได้เร่งพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นคนไทย 4.0 ซึ่งจะต้องมีสติปัญญาดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดแง่บวกและคิดทําประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมเน้นการให้เด็กไทยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง โดยภายในปี 2564 เด็กไทยต้องมีไอคิว ไม่ต่ำกว่า 100 จุด และอีคิว ที่ปกติ ร้อยละ 80