ฟังจากปาก "หนุ่มงดเหล้า...สาวพักตับ" แนะเคล็ดลับเลิกเหล้าเข้าปีใหม่

ปีใหม่ฟ้าใหม่ ใครๆ ก็อยากเริ่มต้นในสิ่งดีๆ ให้แก่ตัวเอง หลายคนอาจวางแผนที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงก่อโรคและปัญหาสุขภาพ ซึ่งการเลิกดื่มน้ำเมาไม่ใช่เรื่องยาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมหนุ่มงดเหล้าและสาวพักตับมีเคล็ดลับมาฝาก

โดย ลุงสมคิด รอดคืน คนหัวใจเพชร ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ที่ประกาศเลิกเหล้าตลอดชีวิต และป้าพรทิพย์ ราชสินธุ์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ที่ 10 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ในฐานะสาวพักตับ ชวนคนเลิกเหล้า

#ตั้งปณิธานว่าจะเลิกจริงๆ

ลุงสมคิด ระบุว่า อันดับแรกต้องตั้งปณิธานกับตัวเองก่อนว่า เราตั้งใจที่จะเลิกจริงๆ อย่างตนเองก็เป็นคนดื่มหนัก ดื่มทุกที่ ทุกเวลา คนในชุมชนก็มองว่าตนเป็นคนขี้เหล้า แต่เมื่อเราตัดสินใจที่จะเข้าโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา เราก็ประกาศตัวต่อตนเองและคนรอบข้างให้รู้ว่า จะเลิกเหล้านะ ซึ่งนอกจากจะเป็นแรงใจให้ตัวเองแล้ว ถ้าหากเรากลับไปดื่มมันก็จะอายเพื่อน อายตัวเอง และเมื่อคนรอบข้างรู้ เขาก็จะให้กำลังใจเราได้ และคนที่ยังดื่มอยู่ ก็จะรู้ว่าเราจะเลิก เขาก็จะไม่มาชวนเรา

แม้จะมีคนที่ดื่มมาบอกว่า ไม่เอาแล้วเหรอ ว่าลุงว่าทำไมถุงหยุดเหล้า เราก็ไม่ถือ สิ่งสำคัญคือเราประกาศตัวชัดว่าเราจะเลิกเหล้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ยังมีคนชวนไปไหนมาไหน ซึ่งก็ไป แต่หากชวนไปดื่มก็จะไม่ไป ตอนนี้ก็เลิกมาได้ 6-7 ปีแล้ว

#จิตใจต้องเข้มแข็ง

ป้าพรทิพย์ ระบุว่า ถ้าจิตใจเข้มแข็งก็จะเลิกได้ เพราะหากจิตใจเราไม่เข้มแข็งพอ ยังตามเพื่อน เห็นเพื่อนกินก็กิน ก็จะเลิกไม่ได้ เรื่องนี้อยู่ที่จิตใจ และถ้าไม่มีใจ ต่อให้เราพูดชักจูงให้ตายเขาก็ไม่ฟัง อย่างสามีตนซึ่งดื่มเก่งมาก เมาทุกวัน กินทุกวัน พอเราชวนให้เขาเลิก พอเขาตัดสินใจเลิกเพื่อเรา เพื่อครอบครัว ก็ตัดสินใจเลิก ซึ่งหากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ก็จะทำไม่ได้

#ค่อยๆ ลดจนเลิก


ลุงสมคิด บอกว่า ตอนที่ตัวเองเลิกเหล้า เนื่องจากไม่สามารถเลิกได้ในทีเดียว หรือหยุดดื่มได้ในทันที ก็จะใช้วิธีค่อยๆ ลดปริมาณการดื่มลง ซึ่งตนเข้าโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ก็เริ่มลดปริมาณการดื่มลง จนออกพรรษาก็ลดการดื่มลงอย่างต่อเนื่อง จนมันรู้สึกเบื่อเหล้าไปเอง ก็เลยตัดสินใจเลิกดื่มเลย ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณเกือบปี กว่าจะเลิกหยุดดื่มได้จริงๆ และเห็นแล้วว่า มันดีต่อสุขภาพเราจริงๆ รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงขึ้น ดังนั้น คนที่ลดดื่มไม่ได้ในทันที ก็ควรค่อยๆ ลดการดื่มลง

ป้าพรทิพย์ บอกเหมือนกันว่า หลังจากที่สามารรับปากว่าจะเลิก เขาก็ใช้วิธีในการค่อยๆ ลดการดื่มลงเช่นกัน โดยเขาค่อยๆ ลดการดื่มลงก่อนเข้าพรรษา ลดดื่มลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าพรรษาจึงหยุดดื่มและเลิกไปเลย แต่ก็ยังเหลือการกินยาดองสมุนไพรช่วงเย็นวันละ 1-2 เป๊ก คล้ายๆ แก้ปวด เพียงแค่นั้น แต่ถือว่าดีขึ้อย่างมาก เพราะไม่มีปัญหาทะเลาะตบตีกันในครอบครัวอีกเลย

#ให้กำลังใจกัน

ลุงสมคิด กล่าวว่า คนในครอบครัวสำคัญในการพูดคุยให้กำลังใจเรา เพื่อให้เราข้ามผ่านไปได้ในช่วงที่จะเลิกเหล้า อย่างตนก็ได้ภรรยาและลูกให้กำลังใจ ที่สำคัญการมีคนอื่นมาร่วมชักจูงให้เลิกเหล้า ก็เป็นหนทางในการช่วยเหลือ อย่างตนก็ไปชักจูงคนอื่นให้เลิกเหล้าต่อ เพราะตนเป็นตัวอย่างที่ดีว่า จากคนที่เคยดื่มเหล้าทุกวัน ยังสามารถเลิกได้ ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นเห็นว่า เราแก่แบบนี้ยังทำสำเร็จเลย และเวลาไปชักชวนก็จะบอกว่า ค่อยๆ ลดการดื่มลง ลดดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรง สดชื่นขึ้น ขนาดคนอทายุน้อยๆ กว่าตนเอง ยังตายจากเหล้าไปแล้ว แต่ตนอายุมากกว่า ก็ยังมีชีวิตอยู่

ป้าพรทิพย์ กล่าวว่า เราก็จะพยายามให้กำลังใจสามีในการเลิกดื่ม ซึ่งก็จะบอกเขาเสมอว่า เห็นหรือไม่ว่าพอเลิกดื่มแล้ว บ้านดีขึ้น ไม่มีการทะเลาะตบตีกันเหมือนตอนสมัยดื่มเหล้าเมาหนัก ก็พยายามพูดให้เขาเข้มแข็ง ส่วนคนในชุมชนที่ตนไปชักจูงก็จะพยายามไปพบเจอถามไถ่ว่าเป็นอย่างไร เขาก็จะบอกว่าขอเวลาค่อยๆ ลดลง ก็หมั่นพูดคุยซักถมให้กำลังใจ ซึ่งคนในชุมชนที่ตนดูแลในฐานะ อสม. มี 18 ครัวเรือน ผู้ชายอ่มทุกครัวเรือน ตอนนี้ก็เลิกได้แล้วประมาณ 10-11 ครัวเรือน

#อย่ากลัวเพื่อนทิ้ง

ลุงสมคิด บอกว่า การบอกว่าเลิกเหล้า ไม่ต้องกัลวว่าเพื่อนจะไม่เอา เพราะจริงๆ แล้วที่ทำให้เลิกไม่ได้ คือ ยังติดกับสังคม แต่การไม่ไปนั่งคุย นั่งดื่ม นั่งกินด้วยกันก็จะทำให้เราถอยห่างและเลิกดื่มได้ และการไม่ไปร่วมดื่มก็ไม่ได้ทำให้เสียเพื่อน จึงไม่ต้องกังวล แต่กลับเป็นตัวอย่างว่า เขาควรทำตัวอย่างเราได้แล้ว


ป้าพรทิพย์ เสริมว่า ของสามีตนก็ไม่มีปัญหา เพราะเมื่อคนหนึ่งไม่ดื่ม พอไม่ครบทีมเขาก็แยกย้าย บ้านใครบ้านมัน และก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเพื่อนร่วมงานเลย ก็ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ

#คิดถึงเงินค่าเหล้าที่ประหยัดได้

ลุงสมคิด ระบุว่า จากากรลองคำนวณพบว่า ค่าเหล้าเป็นปีไม่ต่ำกว่า 4-5 พันบาท ซึ่งเมื่อประหยัดตรงนี้ ก้จะมีเงินไปทำอย่างอื่นภายในครอบครัว นำไปใช้จ่ายส่วนอื่นได้

ป้าพรทิพย์ บอกว่า ประหยัดลงไปเยอะมาก หากจะเลิกดื่มขอให้คิดถึงเงินที่จะปรหยัดได้ว่า เมื่อไม่ดื่มแล้วก็จะมีเงินไปทำอย่างอื่นได้อีก