xs
xsm
sm
md
lg

จ่อยื่น มท.1 ตรวจสอบหลังพบ "ผู้ว่าฯ" ร่วมเปิดลานเบียร์ แฉธุรกิจน้ำเมารุกแฝงหน่วยงานรัฐจัดส่งเสริมการขาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แอลกอฮอล์วอทช์ แฉ "ธุรกิจน้ำเมา" แฝงหน่วยงานรัฐเปิดลานเบียร์ พบผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ เป็นประธาน อ้างสตรีทฟู้ดบังหน้า จัดคอนเสิร์ตลานเบียร์ส่งเสริมการขาย เตือนสติผู้ว่าฯ เป็นประธานควบคุมเหล้าระดับจังหวัด ไม่ควรเกี่ยวข้อง เตรียมนำหลักฐานร้อง มท.1

วันนี้ (15 ธ.ค.) นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (แอลกอฮอล์วอทช์) กล่าวถึงกรณีข่าวรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์ แถลงข่าวเปิดงานสตรีทฟู้ด และกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมเปิดงานเทศกาลดนตรีกับลานเบียร์ ว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามว่า เป็นการส่งสัญญาณที่การันตีอะไรบางอย่างในพื้นที่ใช่หรือไม่ ที่นครปฐมเป็นการแถลงข่าวงานสตรีทฟู้ด มีโฆษณาตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผิดกฎหมาย และในแผนผังเตรียมพื้นที่ลานเบียร์ขนาดใหญ่ มีศิลปินดังมาแสดงดนตรีตลอดทั้งเทศกาล คือ วันที่ 21-31 ธ.ค. ส่วนพังงาเป็นการจัดงานเทศกาลดนตรี วันที่ 13-14 ธ.ค. มีศิลปินมาแสดงคอนเสิร์ตพ่วงด้วยลานเบียร์ ซึ่งทั้งสองงานเป็นการจัดงานร่วมกับบริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ ที่กำลังทำแคมเปญครบรอบ 25 ปี


"ท่านต้องไม่ลืมว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ตามมาตรา 19 และมาตรา 22 มีอำนาจหน้าที่ชัดเจนในการควบคุม ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่สมควรและต้องระมัดระวังอย่างมาก ผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือทำกิจกรรมส่งเสริมการขายของธุรกิจ แต่ควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่า อะไรทำได้ ทำไม่ได้ มิเช่นนั้นท่านจะกลายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดเสียเอง และจากการตรวจสอบพบว่า ที่จังหวัดพังงาไม่มีการขอใบอนุญาตจากสรรพสามิตให้จำหน่ายสุราด้วยซ้ำ” นายคำรณ กล่าว

นายคำรณ กล่าวว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวต้องไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ในเรื่องนี้เครือข่ายฯ ไม่ได้คัดค้านการแสดงดนตรีหรือสตรีทฟู้ด เป็นเรื่องที่ดีและสนับสนุน แต่หากกิจกรรมนั้นแอบแฝงไว้ด้วยลานเบียร์ ส่งเสริมการขาย แอบแฝงโฆษณา มันไม่ถูกต้อง เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่ สุ่มเสี่ยงต่อการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทั้งสองงานควรเป็นงานที่ปลอดภัยต่อ เด็ก เยาวชนครอบครัว และนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท หรือเต็มไปด้วยลานเบียร์ส่งเสริมการขายและการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย ในสัปดาห์หน้าเครือข่ายฯ จะนำเรื่องนี้ร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ติดตามตรวจสอบ


ด้าน นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งนครปฐม และพังงา เชื่อมโยงไปกับแคมเปญใหญ่ของบริษัทเบียร์ครบรอบ 25 ปี มีการจัดคอนเสิร์ต ลานเบียร์ แบบนี้ ตระเวนไปทั่วประเทศ ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะพ่วงกับงานต่างๆ ของแต่ละจังหวัด เช่น ที่นครปฐมมีการออกร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ด เป็นจุดขาย แต่เบื้องหลังที่ใหญ่กว่าพื้นที่สตรีทฟู้ดหลายเท่า คือคอนเสิร์ต ลานเบียร์ ที่มีศิลปินดังสลับกันไปตลอดสิบกว่าวัน ส่วนพังงาเป็นภาพเทศกาลดนตรี และลานเบียร์ มีโฆษณาซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด และมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี กินดื่มกันในงาน ซึ่งจะเป็นแบบนี้อีกหลายจังหวัด ตามแผนการตลาดของบริษัท จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทาง สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักต้องทำงานเชิงรุก เพราะช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจเหล้าเบียร์ บรรดาเอเยนต์ สายส่ง ผับบาร์ต่างๆ พยายามจับมือหน่วยงานภาครัฐ อ้างเรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การโฆษณา เย้ยกฎหมายอยู่ตลอดเวลา มันชัดเจนอยู่แล้วว่าบิ๊กอีเวนต์ส่งเสริมการขาย ลานเบียร์ ป้ายโฆษณาต่างๆ ใครเป็นคนทำและใครได้ประโยชน์ ทั้งหมดทำไปเพื่อประโยชน์ทางการค้าทั้งสิ้น การบังคับใช้กฎหมายต้องเด็ดขาด สำหรับกรณีลานเบียร์ส่งเสริมการขายนั้น มองว่าเพื่อไม่ให้ธุรกิจตีความเข้าข้างตัวเอง อาจจะออกอนุบัญญัติเพิ่มได้ ตามมาตรา30 (6) ให้ชัดเจนไปเลย ว่าห้ามส่งเสริมการขายด้วยวิธีจัดลานเบียร์ หรือจัดคอนเสิร์ตเพื่อขายเหล้าเบียร์

“ยิ่งใกล้เทศกาลปีใหม่เข้ามา บรรดาบิ๊กอีเว้นส่งเสริมการขายสารพัด จะทยอยออกมาเรื่อยๆ เครือข่ายฯ จึงอยากเห็นท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งให้ความสำคัญกับปัญหาเมาแล้วขับ อุบัติเหตุบนท้องถนน ได้โปรดสนใจปัญหาเหล่านี้ด้วย เพราะยิ่งปล่อยให้ส่งเสริมการขาย ก็ยิ่งเพิ่มคนเมาบนท้องถนน ยิ่งสุ่มเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเมาแล้วขับ จึงอยากให้ท่านกำชับหน่วยงานใต้บังคับบัญชาให้แข็งแรง เอาจริงเอาจังกว่านี้” นายชูวิทย์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น