ก.แรงงาน แจงรายละเอียดเกาหลีใต้ปลดล็อก "ผีน้อย" กลับไทย ไม่ติดแบล็กลิสต์ ไม่เสียค่าปรับ ตั้งแต่ถึง มิ.ย. 63 หากเกินกำหนดตั้งแต่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป ต้องเสียค่าปรับ 30-50% หากไม่จ่ายถูกติดแบล็กลิสต์ 1-10 ปี
วันนี้ (14 ธ.ค.) ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีทางการเกาหลีใต้ปลดล็อกแบล็กลิสต์แรงงานไทยในเกาหลีใต้ที่ลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ให้สามารถเดินทางกลับไทยโดยไม่ผิดกฎหมาย ว่า แรงงานไทยที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ สามารถรายงานตัวเพื่อกลับประเทศไทยโดยไม่ผิดกฎหมาย ได้ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562 - 30 มิ.ย. 2563 ซึ่งหากไม่มารายงานตัวเข้าสู่ระบบการปลดแบล็กลิสต์ตามกำหนด วันที่ 1 ก.ค. 2563 ทางการเกาหลีใต้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจกวาดล้างแรงงานไทยที่ผิดกฎหมาย
ด้าน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากข้อมูลของ สนร.เกาหลีใต้ แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2563 เปิดให้รายงานตัวกลับโดยสมัครใจ โดยไม่เสียค่าปรับ และไม่ห้ามเดินทางเข้าประเทศ แต่หากรายงานตัวเดินทางกลับหลังพ้นกำหนดแล้ว โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2563 จะเสียค่าปรับ 30% หากไม่จ่ายค่าปรับจะถูกห้ามเข้าประเทศ 1-10 ปี ส่วนรายงานตัวกลับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป จะเสียค่าปรับ 50% หากกลับโดยไม่จ่ายจะถูกห้ามเข้าประเทศ 3-10 ปี สำหรับผู้ที่ถูกจับ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 จ่ายค่าปรับตามระยะเวลาที่อยู่เกินวีซ่า ผู้ที่ถูกจับและอยู่เกินวีซ่า 3 ปีขึ้นไป จะเสียค่าปรับ 20 ล้านวอน ผู้ที่จ่ายค่าปรับก่อนกลับประเทศ ไม่ห้ามเดินทางเข้าประเทศ (ตม.จะตรวจสอบก่อนอนุญาตให้เข้าประเทศ) นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2562 - 31 มีนาคม 2563 นายจ้างภาคอุตสาหกรรมการผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม หากสมัครใจแจ้งการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย จะไม่ต้องจ่ายค่าปรับ และอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมายได้ชั่วคราว
“รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเข้มงวดและจริงจัง เพราะเป็นประเทศที่มีแรงงานไทยทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้รับค่าจ้างสูงประมาณ 45,644 บาทต่อเดือนในกรณีทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และนายจ้างเกาหลีมีความต้องการจ้างแรงงานไทย เนื่องจากมีฝีมือและมีวินัย อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะมีมาตรการรองรับแรงงานกลุ่มดังกล่าวให้สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และจะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด กับบริษัทและนายหน้าที่หลอกลวง ” นายสุชาติ กล่าว
