กรมอนามัย ย้ำ 4 เรื่องผู้ประกอบการคุมเข้ม-ตรวจสอบคุณภาพอาหาร ก่อนจำหน่าย แนะผู้บริโภคเช็กวันหมดอายุ ระบุสถานที่ผลิตชัดเจน ก่อนกินอาหารที่มีไส้ควรเปิดดูภายในเพื่อความปลอดภัย
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีลูกค้าซื้อขนมปังไส้กรอก จากร้านแห่งหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิ และพบขนมปังขึ้นรา ว่า ในเหตุการณ์นี้ ผู้ประกอบการต้องมีการเฝ้าระวังและควบคุมความปลอดภัยของอาหารให้มากขึ้นและถูกหลักสุขาภิบาล ดังนี้ 1) จัดเก็บอาหารที่จะจำหน่ายให้ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะหลังจากการขายวันนั้นๆ ต้องจัดเก็บอาหารไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ควรจัดเก็บที่อุณหภูมิสูงเพราะจะทำให้เชื้อรามีการเจริญเติบโตได้ง่าย ในสถานที่จำหน่ายอาหารต้องควบคุมคุณภาพผลิตจำหน่ายให้หมดวันต่อวัน 2) ร้านค้าต้องหมั่นตรวจสอบของสินค้าที่ขายมีสภาพผิดปกติ หมดอายุหรือไม่
3) ใช้หลักการจัดลำดับของการขายสินค้าตามลำดับก่อนหลัง นำสินค้าที่รับมาก่อนออกมาขายก่อน (First in First out) 4) เช็กแหล่งผลิตสินค้า รับซื้อสินค้าจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีแหล่งผลิตชัดเจน มีระบบการขนส่งที่ถูกสุขลักษณะ โดยเฉพาะอาหารที่เน่าเสียง่ายควรมีการควบคุมอุณหภูมิขณะขนส่ง และ 5) มีการอบรมผู้ประกอบกิจการค้าอาหาร โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการด้านสุขาภิบาลอาหารในสถานประกอบการ
"ผู้บริโภคจึงควรเลือกซื้อขนมปังที่บรรจุในภาชนะปิดสนิท มีการระบุวันหมดอายุ และสถานที่ผลิตชัดเจน ก่อนบริโภคต้องสังเกตอาหารที่มีครีม หรือธัญพืชเป็นส่วนประกอบ มีไส้ทำจากถั่วงา ธัญพืชต่างๆ โดยเปิดดูไส้ที่อยู่ภายในอาหารก่อนกิน หรือถ้ามีสีกลิ่นรสอาหารที่ผิดปกติไม่ควรนำมาบริโภค นอกจากนี้ควรเลือกสถานที่จำหน่ายหรือผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ไม่ตั้งอยู่ในแหล่งที่มีมลพิษ มีการจัดเก็บและปกปิดที่เหมาะสม รวมถึงคนขายที่มีสุขลักษณะที่ดี" พญ.พรรณพิมล กล่าว
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากอาหารกลุ่มเสี่ยงและไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้สินค้าและการบริการ สามารถร้องเรียนสิทธิในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคได้โดยตรง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 หรือพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นกฎหมายกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควบคุมดูแล เพื่อคุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะและการอนามัยสิ่งแวดล้อมจากการประกอบกิจการและการกระทำทุกอย่างที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน