“อนุทิน” เซ็นร่างกฎกระทรวง "กัญชา" ฉบับใหม่ เปิดช่อง “เกษตรกร” ขออนุญาตปลูกกัญชาได้ ไม่ต้องเป็นวิสาหกิจชุมชน แต่ยังต้องทำร่วมกับรัฐ หากประชาชนต้องการปลูก แค่ไปขึ้นทะเบียนเกษตร จ่อดันร่างเข้ากฤษฎีกาและ ครม.ต่อ
วันนี้ (29 พ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดการประชุมเสวนา "ผ่าทางตัน การใช้กัญชาเสรีทางการแพทย์" ว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต และการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ. ... เพื่อเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกฤษฎีกา และเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป โดยมีส่วนแก้ไขเพิ่มเติมจากร่างเดิม ตรงที่เปิดให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนสามารถขออนุญาตปลูกกัญชากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ได้ จากเดิมที่อนุญาตให้เฉพาะการรวมตัวเป็นรัฐวิสาหกิจชุมชนเท่านั้นที่สามารถขออนุญาตปลูกได้ อย่างไรก็ตาม จะต้องเป็นการ่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการดำเนินการเช่นเดิม เพื่อให้มีการควบคุมมาตรฐาน สายพันธุ์และคุณภาพสารสกัดกัญชา
“หากกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ก็จะทำให้เกษตรกรสามารถปลูกกัญชาได้ เหมือนเปิดกว้างให้ประชาชนทั่วไปปลูกได้แล้ว เพราะหากใครต้องการปลูกก็ไปขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกร แล้วก็ร่วมมือกับสถานพยาบาลของรัฐ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชาได้ ซึ่งในส่วนของวัตถุดิบยังขาดแคลนอยู่ เพราะองค์การเภสัชกรรม (อภ.)ยังต้องการอย่างมาก” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนการปลูกบ้านละ 6 ต้น ยังต้องรอกฎหมายใหม่ออกมา ซึ่งตอนนี้เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ขอย้ำว่าเป็นการเสรีทางการแพทย์เท่านั้น หากกฎหมายผ่านและมีการนำไปใช้ในทางอื่นที่ไม่ใช่ทางการแพทย์แล้วเกิดผลกระทบขึ้น จะมากล่าวโทษตนไม่ได้ นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกเร่งผลิตน้ำมันกัญชาสูตร อ.เดชา เพื่อส่งมอบให้คลินิกกัญชาในรพ.สังกัดสธ.มีสำรองอย่างน้อย 100-200 ขวดต่อรพ.1 แห่ง เพราะคนไข้เข้ารับบริการมากขึ้น ปริมาณน้ำมันกัญชายังไม่เพียงพอ