เขตป้อมปราบฯ กำชับผู้รับเหมาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยระหว่างก่อสร้างอาคารย่านคลองถม หลังเกิดเหตุคานเหล็กก่อสร้างถล่ม สนย.ตั้งคณะทำงานตรวจโครงการก่อสร้าง วิศวกรคุมงานต้องทำรายงานส่งตรวจสอบ
วันนี้ (25 พ.ย.) นายยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเพมหานคร (กทม.) กล่าวกรณีเหตุคานเหล็กก่อสร้างถล่มย่านคลองถมเซ็นเตอร์ ถนนวรจักร ว่า จากการตรวจสอบพบคานเหล็กถล่มอยู่ในพื้นที่โครงการก่อสร้างที่พักอาศัย ความสูง 6 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน สาเหตุมาจากการใช้เครื่องมือ Lattice Single Gin Pole สำหรับยกของในแนวดิ่ง ซึ่งมีสภาพชำรุด ระหว่างการยกเหล็กประกอบโครงสร้างอาคาร เกิดการหล่นกระแทกกับนั่งร้านที่ใช้งานอยู่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ติดตามการให้ความช่วยเหลือและความรับผิดชอบของบริษัทผู้รับเหมาให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ได้รับการรักษาและการชดเชยรายได้ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้กำชับให้ผู้รับเหมาก่อสร้างตรวจสอบความแข็งแรงและความปลอดภัยของอุปกรณ์ เช่น นั่งร้าน แผงป้องกันฝุ่นละอองและวัสดุตกหล่น ปั้นจั่น ทาวเวอร์ เครน เป็นประจํา โดยบันทึกผลการตรวจสอบและลงลายมือชื่อไว้ทุกวันทำงาน พร้อมส่งผลการตรวจสอบให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทุกเดือน
นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวว่า ในส่วนของ สนย. ได้ตรวจสอบและควบคุมอาคารตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจและควบคุมอาคาร พ.ศ.2561 และเพิ่มความเข้มงวดการติดตามตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยแต่งตั้งคณะทำงานตรวจโครงการก่อสร้าง ดัดแปลงหรือรื้อถอนอาคาร เพื่อลดความเสี่ยงในระหว่างปฏิบัติงาน ซึ่งคณะทำงานฯ ได้จัดทำรายการตรวจสอบการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ในการก่อสร้าง โดยวิศวกรผู้ควบคุมงานจะต้องมีการตรวจสอบตามรายการที่จัดทำโดยคณะทำงานฯ อย่างสม่ำเสมอ และส่งรายงานให้แก่ กทม. เป็นประจำตามที่กำหนดไว้ในรายการตรวจสอบ ขณะเดียวกัน สนย. ยังได้จัดอบรมให้ความรู้ในการควบคุมและตรวจสอบการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การก่อสร้าง โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตทุกสำนักงานเขต ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสำนักการโยธาและสำนักงานเขต สามารถนำความรู้จากการอบรมไปใช้ควบคุมและตรวจสอบอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างได้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามหลักวิศวกรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง