“เด็กๆ ทำไม่ได้หรอก”
“ความคิดยังไม่ตกผลึก”
“ต้องให้ผู้ใหญ่เป็นคนนำ”
...และอีกหลากหลายถ้อยคำที่ตอกย้ำว่า ความกล้าคิดกล้าทำ หรือความสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น
แต่...ถ้าคุณได้มาเห็นงานนี้ มันจะเปลี่ยนความคิดของคุณไปโดยสิ้นเชิง เพราะสิ่งที่เด็กและเยาวชนหรือเรียกง่ายๆ ว่า “วัยรุ่น” เขาร่วมกันนั้น มันมีพลัง มีสีสัน ชีวิตชีวา ที่สะท้อนให้เห็นว่า เด็กๆ ก็มีศักยภาพไม่น้อยเหมือนกัน เพียงแค่เขาได้รับโอกาสที่เปิดกว้างในการแสดงความคิดสร้างสรรค์...
สสส.จับมือภาคีเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ จัดมหกรรมเยาวชน “Young คิด กล้า ฝัน” อัดแน่นกิจกรรมสองวันเต็ม เนรมิตวันปิดเทอม เป็นช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ เมื่อวันที่ 26 – 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่มิวเซียมสยาม
พลัง Young เฉิดฉาย ขอเพียงให้โอกาส
เพราะเล็งเห็นพลังของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศที่มีมากกว่า 18 ล้านคน เป็นผลให้ในปี 2561 แผนสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรมสุขภาวะ สำนักสร้างสรรค์โอกาส (สำนัก 6) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สนับสนุนกลุ่มเด็กและเยาวชนไปแล้วมากกว่า 500 กลุ่มทั่วประเทศในการเปิดโอกาสและพื้นที่ให้เด็กๆ ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ และนั่นก็คือหนึ่งในที่มาของการจัดงานมหกรรม “Young คิด กล้า ฝัน” ที่นำตัวอย่างบทเรียนความสำเร็จของแต่ละภาคีเครือข่ายมาเผยแพร่สู่วงกว้างในงานนี้
ศรีศักดิ์ ไทยอารี กรรมการบริหารแผนคณะที่ 6 สสส. กล่าวว่า สสส. ได้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนกล้าคิดและลุกขึ้นมาทำงานต่างๆ ด้วยตัวเองอยู่แล้ว โดยให้กลุ่มเยาวชนที่โตแล้วและผ่านการสร้างกิจกรรมมาแล้ว ไปรวบรวมเยาวชนคนรุ่นใหม่กลุ่มเล็กกลุ่มน้อยที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ มาทำงานด้วยความคิดของตัวเอง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็นับว่าคุ้มค่ามาก
“เท่าที่เราเคยเห็นการรวมพลังแบบนี้ของน้อง ๆ ครั้งนี้ถือว่าเป็นมีสีสันมากที่สุด มีความน่าตื่นเต้นและหลากหลาย มันทำให้เรารู้ว่าน้องๆ ทั้งหลาย เวลาเขาจะรวมพลังกัน เขาก็รวมกันได้และเขามาช่วยทำงาน ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่า ซุ้มต่างๆ ในงานนี้ อาจจะเป็นส่วนตัวเฉพาะกลุ่ม แต่ก็จะมีอีกส่วนที่เขาได้มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ซึ่งตรงนี้มันแสดงให้เห็นถึงพลังของเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง”
ศรีศักดิ์ ไทยอารี กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ในสังคมอาจจะมีความรู้สึกว่า เด็กและเยาวชนคิดไม่เป็น ทำไม่เป็น ผู้ใหญ่ต้องคิดให้ แล้วก็สั่งให้เด็กทำ
“แต่งานนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ผู้ใหญ่ไม่ต้องคิด ผู้ใหญ่เพียงแต่สนับสนุนเขา แล้วเขาคิดเอง เขาทำเอง พวกเขามารวมกันได้จากทั่วสารทิศ เพราะมีใจเดียวกัน เขามีความฝัน เขามีความกล้า และเขาอยากทำ ซึ่งตรงนี้มันทำให้เราเห็นนิมิตหมายใหม่ที่ผู้ใหญ่จะต้องปฏิวัติความคิดใหม่แล้วว่าการทำแบบเดิมๆ ที่ผู้ใหญ่คิดและทำเองทั้งหมด แล้วนำเด็กๆ มาเป็นเพียงตัวประกอบ อย่างนั้นไม่ได้แล้ว ตอนนี้เราต้องให้เด็กๆ ทำ และเราอยู่ข้างหลัง ช่วยสนับสนุนเขา เราปล่อยให้เขาได้มีความคิดที่เสรี แต่ในขณะเดียวกัน เราก็คอยช่วยดูว่าความคิดนั้น ถ้าเขาทำออกมาแล้ว มันสามารถที่จะผสมผสานกันเป็นกลุ่มก้อนได้อย่างไร แล้วมันโชว์พลังอย่างไร ทั้งในแง่ส่วนตัวและส่วนรวม”
คือช่วงเวลาคุณภาพ พัฒนาศักยภาพหลากหลายด้าน
รอยยิ้มแห่งความสุขของเด็ก ๆ ที่กระจายไปทั่วพื้นที่ของมิวเซียมสยาม รวมทั้งแววตาแห่งปิติของน้องๆ ที่ได้แสดงศักยภาพของตนเองออกมา ตลอด 2 วันแห่งงานมหกรรม “Young คิด กล้า ฝัน” นับเป็นภาพที่อธิบายได้เป็นอย่างดี ถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการจัดงานในครั้งนี้
“Young คิด กล้า ฝัน” ครั้งที่ 1 ในปีนี้ เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง สสส. และภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น มูลนิธิไอวาย กลุ่มไม้ขีดไฟ สำนักกิจกรรมกิ่งก้านใบ กลุ่มรักษ์เขาชะเมา Music Sharing มูลนิธิการศึกษาเพื่อชีวิตและสังคม สำนักข่าวเด็กและเยาวชน จังหวัดพะเยา สถาบันไทเลยเพื่อการพัฒนา กลุ่มหน้ากากเปลือย Achieve ตลอดจนภาคีเครือข่ายเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ และแน่นอนว่า จากความสำเร็จนี้ จะนำไปสู่การจัดงานครั้งที่ 2 หรืออีกหลายๆ ครั้ง ในปีต่อๆ ไปอย่างแน่นอน
เข็มเพชร เลนะพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างสรรค์โอกาส สสส. ให้ความเห็นด้วยความรู้สึกเชื่อมั่นว่า งานมหกรรมครั้งนี้จะช่วยทำให้เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วม มีเวลาคุณภาพในช่วงปิดเทอม ได้พัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง ของโลก ทั้งยังได้พัฒนาความเป็นจิตอาสา ค้นหาความฝันและความต้องการของตนเอง ผ่านกิจกรรม Workshop มากมายที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี
โดยกิจกรรมเหล่านี้ก็มีตั้งแต่ “Young Stage” การแสดงบนเวทีหลัก ดนตรี นาฏศิลป์ ละครเวที, “Young อยากโชว์” โชว์มันๆ จากวัยรุ่นคน “มีของ”, “Young อยากรู้” เปิดใจเรียนรู้เรื่องใหม่กับ Workshop สนุกๆ และ “Young อยากลอง” ซึ่งเหมาะสำหรับน้องๆ ที่อยากลองทำกิจกรรม DIY, ทำอาหาร นอกจากนั้นยังมีซุ้มนิทรรศการและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
“โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงาน คือเพื่อให้เกิดการตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของภาคีทุกภาคส่วน ให้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน นอกจากนั้นก็มีการนำเสนอรูปแบบและวิธีการพัฒนาศักยภาพ รวมถึงต้องการสื่อสารให้สังคมได้เข้าใจและเห็นรูปธรรมของการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนที่เขาเป็นคนคิดเองทำเอง โดยผู้ที่มาร่วมงานก็จะได้ประสบการณ์ความสนุกร่วมไปกับกิจกรรมที่เด็ก ๆ คิดค้นขึ้นมา” เข็มเพชร เลนะพันธ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย