อย.จี้ บริษัทยาแจงข้อมูลนำเข้า-ขายยา “วาลซาร์แทน” วัตถุดิบปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง แนะผู้ป่วยเปลี่ยนยาที่ รพ.ฟรี ย้ำ ยังมียาความดันตัวอื่นให้ใช้ ผู้ป่วยไม่ต้องกังวล
วันนี้ (15 ก.ค.) นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีการเรียกคืนยาความดันโลหิตสูง “วาลซาร์แทน” เนื่องจากพบการปนเปื้อนสารก่อมะเร็งในวัตถุดิบ ซึ่งยาดังกล่าวนำเข้ามาจากประเทศจีน มี 2 บริษัท 5 ตำรับยา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกคืนยาดังกล่าว และเก็บออกจากท้องตลาด แต่เพิ่งประกาศไปเลยยังไม่มีข้อมูลการเรียกเก็บ โดย อย.จะดำเนินการควบคุมการทำลายต่อไป นอกจากนี้ ยังได้เรียกข้อมูลอีกการนำเข้าและขายยาวาลซาร์แทนแต่ละรุ่น จากทุกแหล่งผลิต ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ให้ อย. ทราบภายในสัปดาห์นี้
นพ.วันชัย กล่าวว่า ส่วนที่หลายคนใช้ยาความดันโลหิตดังกล่าวแล้วกังวลว่า อนาคตจะเกิดมะเร็งหรือไม่ และจะเรียกร้องจากใคร จริงๆ สามารถฟ้องโดยตรงกับทางบริษัท โดยใช้กฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่ต้องมีการพิสูจน์ว่ามาจากยา อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มียาอื่นใช้ เพราะในกลุ่มเดียวกันยังเหลืออีก 9 ตำรับในการใช้ได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณา โดยประชาชนที่มียาตัวที่ อย.ประกาศ สามารถนำยากลับไปพบแพทย์ที่ รพ.ตามสิทธิเพื่อขอเปลี่ยนยาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ยาวาลซาร์แทน เป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูง โดยมีการตรวจพบตอนหลัง ว่า มีสาร dimethylnitrosamine (DMN) ซึ่งก่อมะเร็งในหลอดทดลอง เกิดจากกระบวนการผลิตของสารตั้งต้นที่ผลิตในประเทศจีน ทั้งนี้ แม้จะยังไม่พบว่าก่อโรคในคน แต่เมื่อพบความไม่ปลอดภัยในสัตว์ทดลอง ซึ่งตามหลักการแล้วก็มีโอกาสเกิดอันตรายกับมนุษย์ ดังนั้น หลายประเทศทั่วโลกจึงได้ออกมายกเลิกทะเบียนตำรับ รวมถึงไทยด้วย 5 ตำรับ จาก 2 บริษัท ตอนนี้อยู่ระหว่างการเรียกคืนยาจากท้องตลาด อย่างไรก็ตาม ยา 5 ตำรับนี้เป็นนอกบัญชียาหลักแห่งชาติ จึงคาดว่าปริมาณการผลิตและใช้ไม่น่าจะมีมากนัก
นพ.สุรโชค กล่าวว่า ตอนนี้ที่กังวล คือ เกรงว่าประชาชนจะตกใจกลัวมากจนไม่กินยาลดความดัน ซึ่งต้องเรียนว่า หากไม่กินยาลดความดัน อาจจะทำให้มีผลแทรกซ้อนจากโรคความดัน ซึ่งอันตราย ดังนั้น อย่าขาดยา เพราะมียาอีกหลายตัวที่ใช้ทดแทนกันอยู่ เบื้องต้นทาง 2 บริษัทยา ยินดีรับผิดชอบจ่ายคืนเงิน และเปลี่ยนตัวยาที่ไม่มีปัญหาให้แทน ทั้งนี้ หากยังไปเปลี่ยนยาไม่ได้ ก็ยังสามารถกินยาตัวเดิมได้ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่การหาหมอเป็นเรื่องยากลำบาก อย.สหรัฐอเมริกา ก็ให้ประชาชนกินยาตัวเดิมได้อยู่
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ที่มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) กว่า 49 ล้านคนนั้น พบว่า ประมาณร้อยละ 15 เป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง