สธ.เผยอาการ 8 หมูป่า สุขภาพดี ไม่มีไข้ทุกคน อาจมีน้ำหนักลด สามารถช่วยเหลือตัวเอง ทำกิจวัตรพูดคุยตามปกติ ให้กินข้าวต้มอาหารอ่อน รสไม่เผ็ดไม่จัด สุขภาพจิตดี ร่าเริง ร้องขอกินขนมปังช็อกโกแลต เผย หลังรับตัวเข้ามามีอุณหภูมิร่างกายต่ำ ให้ยาปฏิชีวนะ ส่งเลือดตรวจเชื้ออุบัติใหม่ พ่อแม่เข้าเยี่ยมผ่านกระจกแล้ว
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวการดูแลรักษาพยาบาลของทีมหมูป่าอะคาเดมี่ จำนวน 8 คน ที่ช่วยเหลือออกมาจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า รัฐมนตรีสาธารณสุขก็ได้กำชับให้ดูแลน้องๆ อย่างดี โดยไม่ให้กระทบกับผู้ป่วยท่านอื่นๆ ทางนายกรัฐมนตรีก็ได้มาเยี่ยม ให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่และญาติๆ ซึ่งน้องๆ ทั้งหมดก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการควบคุมโรค ทั้งนี้ จากการประเมินสรุปผลเบื้องต้นว่า ขณะนี้ทั้ง 8 คน มีสุขภาพดี ไม่มีไข้ อาจมีน้ำหนักลดลงไปบ้าง ทุกคนมีภาวะสุขภาพจิตที่ดี ร่าเริงดีใจที่ได้ออกมา สามารถช่วยเหลือตัวเอง ทำกิจวัตรประจำวันได้ พูดคุยได้เป็นปกติ ส่วนการดูแลเป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรค คือ อยู่ในห้องแยกโรค โดยไม่มีการสัมผัสกับผู้อื่น มีการเจาะเลือด เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ ให้สารน้ำเกลือทางหลอดเลือด ให้วิตามินบี 1 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ทั้งวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และวัคซีนพิษสุนัขบ้า ส่วนผู้ปกครองของเด็ก 4 คนแรก ให้เข้าเยี่ยมผ่านกระจกแล้ว
นพ.เจษฎา กล่าวว่า สำหรับ 4 คนแรกที่ออกมาก่อน มีอายุ 14-16 ปี แรกรับเมื่อวันที่ 8 ก.ค. เข้ามามีอุณหภูมิร่างกายต่ำ จากการอยู่ในที่ชื้น และเย็นมานาน ประกอบกับดำน้ำออกมา จึงได้ดูแลด้วยเครื่องให้ความอบอุ่น จากการเอกซเรย์ปอดพบผิดปกติ 2 คน คาดว่า เป็นปอดอักเสบ จึงให้ยาปฏิชีวนะ ส่วน 1 ราย มีแผลถลอกที่ข้อเท้า ได้ดูแลรักษาแล้ว ตอนเช้าเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา ไม่มีไข้ ทำกิจวัตรได้ตามปกติ นั่งเตียงเองได้ หลังให้อาหารทางการแพทย์ครึ่งวัน เช้านี้ก็สามารถให้อาหารอ่อนตามปกติได้ คือ ข้าวต้ม รสไม่จัด ไม่เผ็ด สำหรับผู้ป่วยชุดที่ 2 อายุ 12-14 ปี แรกรับเข้ามาอาการคล้ายกันคืออุณหภูมิร่างกายต่ำ จึงให้ความอบอุ่น โดยมี 1 ราย อุณหภูมิร่างกายต่ำมาก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ โดยให้ยาแล้ว ล่าสุด ปกติดี เช้านี้ทุกคนอาการดี ไม่มีไข้ โดยจากนี้จะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินเรื่องสายตา โภชนาการ และจิตใจ
นพ.เจษฎา กล่าวว่า จากการตรวจพบว่าทุกคนมีระดับเม็ดเลือดขาวสูง บ่งบอกอาการคคล้ายการติดเชื้อ จึงมีการให้ยาปฏิชีวนะแล้ว ส่วนการตรวจเชื้อต่างๆ นั้น เชื้อทั่วไป รพ.เชียงรายฯ สามารถตรวจเองได้ ส่วนเชื้ออุบัติใหม่ หรือเชื้อแปลกๆ จะส่งตรวจที่ กทม. ซึ่งจะทราบผลภายใน 1-2 วัน ซึ่งหากไม่พบเชื้อก็จะให้ผู้ปกครองเข้าเยี่ยมได้ แต่เป็นตามมาตรฐานควบคุมโรค คือ จะต้องสวมชุดกาวน์ สวมหน้ากากอนามัย สวมหมวกคลุม และรองเท้า โดยอยู่ห่างจากผู้ป่วย 2 เมตร โดยหลังแน่ชัดว่าไม่มีติดเชื้อ ซึ่งต้องรอ 7 วัน ก็จะให้เข้าเยี่ยมได้ตามปกติ ทั้งนี้ จากการสอบถามเด็กๆ ระบุว่า จุดที่อยู่ภายในถ้ำไม่มีค้างคาว
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ กล่าวว่า สำหรับเด็กกลุ่มแรก รพ.ได้ให้อาหารที่เป็นข้าวได้แล้ว แต่ยังต้องเป็นไม่เผ็ด ไม่จัด ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าได้เด็กๆ ขอทานขนมปังทาช็อกโกแลต แพทย์ประเมินแล้วพบว่า สามารถทานได้ จึงจัดให้ แต่ไม่ได้ให้มากนัก เพราะยังต้องควบคุม เนื่องจากเด็กมีภาวะหิวและต้องการรับประทานมากกว่าปริมาณที่เราจัดให้ แต่ต้องควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบจากการรับประทานอาหารมากเกินไปจนกว่าร่างกายจะกลับมาเป็นปกติ ส่วนที่เด็กอยากรับประทานข้าวผัดกะเพรานั้น ยังไม่สามารถให้ได้ เพราะต้องควบคุมเรื่องอาหาร ยังคงไม่สามารถตามใจได้ทั้งหมด ส่วนที่เด็กๆ ระบุว่าจุดที่อยู่ไม่มีค้างคาวนั้น จากการคุยกับนักวิชาการ ก็ถือว่าวางใจไปได้เล็กน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะปลอดเชื้อทั้งหมด จึงต้องมีการส่งตรวจยืนยัน โดยได้เก็บตัวอย่างเลือด และเสมหะที่ป้ายจากในคอ ส่งตรวจยัง กทม.เพื่อตรวจหาเชื้อโรคอุบัติใหม่ ส่วนเจ้าหน้าที่หรือคนที่สัมผัสตัวเด็กๆ นั้น ไม่จำเป้นที่จะต้องตรวจหาเชื้อแต่อย่างใด