กรมสุขภาพจิต เผย ครอบครัว 13 ชีวิตทีมหมูป่า สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ยังอ่อนเพลียจากการเฝ้ารอหลายวัน เร่งสร้างความเข้าใจขั้นตอนเคลื่อนย้ายเด็ก และการเตรียมพร้อมคุยกับลูกหากเจอกันครั้งแรก เผยจากคลิปเชื่อเด็กมีสติ ขวัญกำลังใจดี
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสภาพจิตใจของครอบครัวหลังพบ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ว่า ผลการประเมิน พบว่า ทุกครอบครัวมีสุขภาพจิตดีขึ้นอย่างมาก แต่หลายคนก็มีอาการอ่อนเพลียจากการเฝ้ารออยู่หลายวัน สำหรับการดำเนินการเตรียมความพร้อมในส่วนของผู้ปกครองและญาติ ทีมสุขภาพจิต เน้น 2 เรื่อง คือ 1. การให้ข้อมูลสร้างความเข้าใจขั้นตอนการเคลื่อนย้ายเด็กๆ และญาติไปเฝ้าลูกหลานที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และให้เป็นไปตามแผนที่ซักซ้อมกันไว้แล้ว โดยจากแผนของทีมหลักจะจัดรถตู้ให้ผู้ปกครอง 4 คัน และจัดทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท นั่งไปด้วยกัน เพื่อลดความกังวลของครอบครัวและญาติ และ 2. การเตรียมพร้อมผู้ปกครองในการสื่อสารกับลูกในวันที่พบกันครั้งแรก ซึ่งจะมีความสำคัญมาก โดยเน้นการสื่อสารในลักษณะที่สร้างสรรค์ตามแนวทางที่ทีมได้กำหนดไว้ เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลทางจิตใจที่อาจจะเกิดกับลูกได้
นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ในส่วนสภาวะจิตใจของเด็กๆ ซึ่งส่วนใหญ่อายุ 13-16 ปี ต่ำสุด 11 ปี ในเบื้องต้น จากการดูภาพจากคลิปวิดีโอ พบว่า ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เนื่องจากเด็กๆ บางคนยังมีรอยยิ้ม สามารถพูดโต้ตอบกับทีมค้นหาได้ แสดงถึงเด็กยังมีสติ มีขวัญกำลังใจที่ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเผชิญเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นกลุ่มใหญ่ ทุกคนเป็นนักกีฬา ผ่านการฝึกฝนสร้างความแข็งแรงทั้งทางกายและความเข้มแข็งทางจิตใจ มีความหวัง และมีโค้ชซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่สุดเป็นผู้นำ จึงสามารถดูแลช่วยกันประคับประคอง ปลอบใจซึ่งกันและกัน ช่วยคลายทุกข์ลงได้มาก ประกอบกับการค้นหาของทีมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐเอกชนเป็นไปอย่างรวดเร็วด้วย อย่างไรก็ตาม จะต้องประเมินสภาวะสุขภาพจิตภายหลังจากที่อาการทางกายคงที่ และปลอดภัยแล้ว
