xs
xsm
sm
md
lg

วธ.- จส.100 ยกย่อง 9 คนดี ต้นแบบสังคมไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับสถานีวิทยุ จส.100 ยกย่อง 9 คนดี “7 วัน 7 ความดี” ต้นแบบสังคมไทย พร้อมติดตามผลงานจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย 15 หน่วยงาน สร้างวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนด้วยวินัยจราจร - น้ำใจไมตรี - ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ สถานีวิทยุ จส.100 จัดพิธีมอบรางวัลคนดีที่ทำความดีบนท้องถนน ในโครงการ “7 วัน 7 ความดี คนดีบนท้องถนน” โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัลเชิดชู 9 คนดีบนท้องถนน เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลที่เสียสละและเป็นกำลังใจในการทำความดีเพื่อผู้อื่นต่อไป พร้อมสร้างจิตสำนึกการทำดี ส่งต่อความมีน้ำใจไมตรีให้สังคม ในการนี้ คุณหญิง สุวิมล ผึ่งประเสริฐ กรรมการบริหาร สถานีวิทยุ จส.100 ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานภาคีเครือข่าย 15 องค์กร ร่วมเป็นเกียรติ

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวแสดงความยินดีชื่นชมต่อ 9 คนดี ที่ได้รับรางวัลว่า ทั้ง 9 คน ถือเป็นแบบอย่างของการทำความดี แสดงถึงความมีน้ำใจไมตรีและจิตสำนึกสาธารณะ ซึ่งเป็นค่านิยมพื้นฐานที่ช่วยสร้างความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ งานในวันนี้ จึงเป็นการเผยแพร่การทำความดีและแบบอย่างของการประพฤติดีให้กับสาธารณะชนได้ประจักษ์ ในส่วนของการสัมมนาระดมความเห็น เรื่อง การเสริมสร้างวินัยจราจรและน้ำใจไมตรีบนท้องถนน ทำให้ได้รับทราบข้อเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์ของการเสริมสร้างวินัยจราจร น้ำใจไมตรี รวมถึงมารยาทในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน อันจะช่วยลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่ยานพาหนะและผู้สัญจรบนท้องถนน รวมทั้งลดการสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอีกด้วย โดยในปีนี้มีผู้ที่ทำความดีและได้รับการคัดเลือกได้รับรางวัลใน 7 เหตุการณ์ ได้แก่ โดยในปีนี้มีผู้ที่ทำความดีและได้รับการคัดเลือกได้รับรางวัลใน 7 เหตุการณ์ ได้แก่ 1. นายวิทิต ด้วงจุมพล แท็กซี่พลเมืองดี เก็บกระเป๋าผู้โดยสารบรรจุทองน้ำหนัก 2 กิโลกรัม และเงินสด รวมมูลค่าประมาณ 2,850,000 บาท ส่งคืนเจ้าของ 2. นายประวิทย์ ปั้นทอง แท็กซี่พลเมืองดีช่วยเหลือหญิงชาวเอธิโอเปียพลัดหลง 3. นายไพบูลย์ ขำมาก และ นายทวีสิทธิ์ อุ่นสกุลสุข คนดูแลท่าเรือวัดคลองเตยนอก ได้ช่วยชีวิตคนกระโดดน้ำจะฆ่าตัวตาย บริเวณท่าเรือวัดคลองเตยนอก 4. นางสาวเขมจิรา แซ่แต้ และ นาวสาวยุวธิดา วงษ์ศรี เก็บกระเป๋าของชาวไต้หวันส่งคืนผ่าน จส.100 5. นายวรชัย ดีสูงเนิน แจ้งผ่าน SOS จส.100 ช่วยเหลือชายเป็นลมหมดสติขณะวิ่งออกกำลังกาย ณ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 6. นายจิระประทีป เพ็ชรจุ้ย แจ้งอุบัติเหตุผ่าน SOS จส.100 รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เสียหลักพลิกตะแคง 7. นายพิเชฐ มาไกล คนขับแท็กซี่ พาคุณยายป่วยอัลไซเมอร์หลงทางกลับบ้าน

“วธ. ขอชื่นชมและยกย่องผู้ที่ดีคุณงามความดีเหล่านี้ นอกจากนี้ จะนำความดีออกเผยแพร่สู่สื่อสาธารณะ เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนรอบข้าง คนอื่นได้เรียนรู้และนำไปปฏิบัติด้วย นอกจากนี้เมื่อช่วงเช้าได้มีหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย 15 องค์กร ระดมความคิดเห็น สร้างจิตสำนึก จิตสาธาธรณะ อย่างไรก็ตาม สวธ.และองค์กรต่างๆ จะนำผลการประชุมมาจัดทำแผนดำเนินการร่วมกัน แล้วส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินงานต่อไป” นายวีระ กล่าว

ทั้งนี้ จากการระดมความคิดเห็นเรื่อง “การเสริมสร้างวินัยจราจร” โดย นายธนันชัย เมฆประเสริฐวณนิช ผู้แทนจากสำนักจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานคร มีนโยบายหลายโครงการ ที่เน้นความสำคัญความปลอดภัยทางถนน เช่น ทางข้ามบริเวณด้านหน้าโรงเรียนและให้เจ้าหน้าที่เทศกิจคอยอำนวยความสะดวกหน้าโรงเรียนในช่วงเช้าและหลังเลิกเรียน กว่า 1,000 แห่ง นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการอำนวยความสะดวกเช่นการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ส่วนโครงการๆ อื่น เช่น การสำรวจจุดเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้ง 50 เขต ซึ่งพบพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ 12 เขต จึงได้นำเทคโนโลยีมาใช้ควบคู่กับการตรวจจับความเร็วในจุดที่มีความเสี่ยงด้วย พร้อมกันนี้ยังมีโครงการการสวมใส่หมวกกันน็อก 100% จะเริ่มในเดือนกรกฎาคม 2561 นำร่องจัดอบรมรณรงค์ ในกลุ่มนักศึกษาอาชีวะ เพราะเป็นกลุ่มวัยรุ่นซึ่งส่วนใหญ่จะใช้รถจักรยานยนต์เป็นส่วนใหญ่

ด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ไม่มีใครทราบว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อไหร่ และการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่ละครั้งย่อมเกิดความสูญเสีย เสียทรัพย์สิน การได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สังคมไทยหลายคนมองว่าการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากโชคชะตา ซึ่งบางครั้งเราสามารถป้องกันหรือลดการสูญเสียได้ โดยสวมหมวกกันน็อก รัดเข็มขัดนิรภัย เคารพกฎจราจร ขับรถโดยใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด เมาไม่ขับ


กำลังโหลดความคิดเห็น