อาจารย์แพทย์ เผย แนวทาง สปสช. ให้แฟกเตอร์เข้มข้น ฉีดผู้ป่วยเลือดออกง่าย “ฮีโมฟีเลีย” ส่งผลผู้ป่วยเข้า รพ. น้อยลง เพิ่มคุณภาพชีวิต หาเคสตัวอย่างคนไข้เลือดออกในข้อมาสอนนักเรียนแพทย์ไม่ได้แล้ว
ศ.พญ.อำไพวรรณ จวนสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมนานาชาติโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลีย สาขากรุงเทพมหานคร และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโรคเลือดทางกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงสถานการณ์โรคฮีโมฟีเลียในปัจจุบัน ว่า ฮีโมฟีเลียจัดอยู่ในกลุ่มโรคหายาก มีอุบัติการณ์ 1 : 10,000 ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ลงทะเบียนรับแฟกเตอร์เข้มข้นกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ประมาณ 1,600 คน ซึ่งตามแนวทางการรักษาที่ทำมากว่า 10 ปี ผู้ป่วยเหล่านี้เมื่อลงทะเบียนแล้ว จะได้รับแฟกเตอร์เข้มข้นจำนวนหนึ่งไปฉีดที่บ้าน โดยจะฉีดเมื่อเริ่มมีอาการเลือดออก
ศ.พญ.อำไพวรณ กล่าวว่า ในช่วง 2 - 3 ปีนี้ มีบางโรงพยาบาลที่คนไข้ได้รับแฟกเตอร์ฉีดเพื่อป้องกัน สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ซึ่งจากแนวทางการรักษาแบบนี้ทำให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อาการเลือดออกตามข้อต่างๆ ได้รับการรักษาทันทีเมื่อมีอาการ ลดความเสียหายของข้อต่อต่างๆ และผู้ป่วยจึงไม่ต้องมาที่โรงพยาบาลเหมือนในอดีต
“ในอดีตคนไข้ที่มีอาการรุนแรงหรือปานกลางจะมีเลือดออกในข้อหรือในกล้ามเนื้อ ต้องมารักษาที่โรงพยาบาลครั้งละ 3 - 7 วัน เดือนหนึ่งมา 2 - 3 ครั้ง กล่าวได้ว่า แทบจะใช้ชีวิตครึ่งค่อนอยู่ในโรงพยาบาล แต่หลังจาก สปสช. มีแฟกเตอร์เข้มข้นไปฉีดเองที่บ้าน คนไข้ก็หมดไปจากโรงพยาบาล จนกระทั่งตอนนี้ในฐานะอาจารย์แพทย์ ไม่มีตัวอย่างคนไข้เลือดออกในข้อให้นักเรียนแพทย์เรียนเลย” ศ.พญ.อำไพวรรณ กล่าว
ศ.พญ.อำไพวรรณ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ป่วยฮีโมฟีเลียที่มาโรงพยาบาลจะมีเฉพาะกรณีเลือดออกรุนแรงหรือเมื่อมาทำฟัน ส่วนผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ซึ่งได้รับแฟกเตอร์เข้มข้นในช่วง 10 ปีมานี้แทบไม่ต้องมาโรงพยาบาลเลย ยิ่งในรายที่ให้การรักษาแบบป้องกันก็ยิ่งเหมือนคนปกติ แต่ยังมีปัญหาอยู่บ้างในกลุ่มคนไข้ผู้ใหญ่ที่เยื่อบุข้อมีความผิดปกติ เนื่องจากตอนยังเด็กไม่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่
ด้าน นพ.ชูชัย ศรชำนิ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท/ปี ในการจัดหาแฟกเตอร์เข้มข้นจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาล 49 แห่งทั่วประเทศ ที่เป็นศูนย์รับลงทะเบียนของ สปสช. รวมทั้งจัดระบบเชื่อมโยงกับระบบบริการการแพทย์ปฐมภูมิ และกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นของ อบต. และเทศบาล ที่มีผู้ป่วยฮีโมฟีเลียอาศัยอยู่เพื่อระบบ ช่วยแนะนำ สอนผู้ป่วยและครอบครัวให้สามารถดูแลรักษาตัวเองที่บ้านได้
อย่างไรก็ดี เนื่องจากแฟกเตอร์เข้มข้นถูกจัดอยู่ในกลุ่มชีววัตถุตามรายการในบัญชีนวัตกรรมไทย หมายความว่า หากสามารถผลิตในประเทศได้ ต้องให้ลำดับความสำคัญในการซื้อของที่ผลิตในประเทศก่อน ซึ่งขณะนี้โรงงานผลิตแฟกเตอร์เข้มข้นของสภากาชาดไทยที่ศรีราชาได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากเกาหลีใต้ รวมทั้งได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์การอนามัยโลกแล้ว สิ่งที่เป็นประเด็น คือ ต้นทุนในการผลิตของสภากาชาดไทยสูงกว่าราคาที่ สปสช. จัดหามา อาจทำให้ดูเหมือนว่าส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยได้รับแฟกเตอร์เข้มข้นในปริมาณที่ลดลง ทาง สปสช. ได้หารือร่วมกับสภากาชาดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับแฟกเตอร์เข้มข้นในปริมาณที่ไม่น้อยกว่าเดิม ซึ่งอาจจะต้องของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาลในปี 2562 แต่เป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก ไม่น่าจะเกิน 25 ล้านบาท