กรมอนามัย เผย “โฟลิก” อภ. ขนาด 5,000 ไมโครกรัม ใช้สำหรับรักษาโรคเลือด ไม่ได้เป็นวิตามินทดแทน ชี้ แม้รับประทานเกินขนาดก็สลายได้ ระบุ อภ. ยังมีผลิต “เฟอโรโฟลิก” ขนาด 2,800 ไมโครกรัม ในโครงการ “สาวไทยแก้มแดง” รับประทานสัปดาห์ละเม็ด เฉลี่ย 400 ไมโครกรัมต่อวัน ตาม WHO กำหนด
จากกรณีเครือข่ายผู้พิการร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดิน ประเด็นองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตวิตามินโฟลิกขนาด 5,000 ไมโครกรัม ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด คือ 400 ไมโครกรัม โดยขอให้ อภ. ปรับการผลิตวิตามินโฟลิกเป็น 400 ไมโครกรัม และขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แก้ระเบียบการจดทะเบียบอาหารเสริม ที่กำหนดให้อาหารเสริมต้องติดข้อความ “สตรีมีครรภ์และเด็กห้ามรับประทาน” โดยให้ยกเว้นโฟลิก เพราะเป็นอาหารเสริมที่สตรีมีครรภ์ควรรับประทาน
วันนี้ (7 พ.ย.) พญ.นภาพรรณ วิริยะอุตสาหกุล ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ปริมาณของโฟลิก หรือ วิตามินบี 9 ที่ควรได้รับในชีวิตประจำวันคือประมาณ 400 ไมโครกรัมต่อวัน หรือ 0.4 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งโฟลิกนั้นมีอยู่ในผักและผลไม้ แต่วิตามันดังกล่าวสามารถสูญสลายไปได้จากการหั่น หุง ต้ม โดยเฉพาะในผัก หากไม่ได้รับประทานแบบสดๆ ก็จะได้รับปริมาณโฟลิกที่น้อยลง อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าในประเด็นโภชนาการ การรับประทานอาหารและผักผลไม้ที่ถูกต้องและเพียงพอ ก็ยังช่วยให้ได้รับโฟลิกอย่างเพียงพอได้ แต่ผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารเสริมเพื่อทดแทนสารอาหารที่ขาดไปนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า การขาดวิตามินต่างๆ ตามปกติแล้วไม่ได้ขาดแค่วิตามินตัวใดตัวหนึ่ง แต่มักจะขาดหลายตัว ซึ่งตามท้องตลาดก็จะมีอาหารเสริมที่เป็นวิตามินรวม ในนั้นก็จะมีโฟลิกปริมาณ 400 ไมโครกรัมเป็นส่วนประกอบด้วยอยู่แล้ว ก็สามารถรับประทานเสริมได้
“สำหรับการผลิตโฟลิกของ อภ. ขนาด 5,000 ไมโครกรัมนั้น วัตถุประสงค์ไม่ได้เพื่อเป็นอาหารเสริมในการทดแทนสารอาหาร แต่เป็นการผลิตเพื่อเป็นยาในการรักษาคนไข้โรคเลือด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมอนามัยมีการขับเคลื่อนเรื่องสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาคนไทยแต่งงาน มีลูกช้า และภาวะการเกิดที่ไม่สมบูรณ์ โดยมีความร่วมมือกับ อภ. ในการผลิต “เฟอโรโฟลิก” เพื่อเป็ยวิตามินสนับสนุนให้สาวไทยรับประทานเตรียมความพร้อมในการมีบุตรต่างหากมีหนึ่งตัว” พญ.นภาพรรณ กล่าว
พญ.นภาพรรณ กล่าวว่า สำหรับวิตามินเฟอโรโฟลิกนั้น ประกอบด้วย โฟลิกขนาด 2,800 ไมโครกรัมต่อเม็ด และเหล็กปริมาณ 60 มิลลิกรัม โดยรับประทานสัปดาห์ละ 1 เม็ด ก็เท่ากับว่าเฉลี่ยได้รับโฟลิกประมาณ 400 ไมโครกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม หาก อภ.สามารถผลิตโฟลิกแบบ 400 ไมโครกรัมต่อวันได้เลยก็เป็นเรื่องที่ดี และเป็นทางเลือกในการรับประทานทดแทน แต่ขณะนี้ตนมองว่าเฟอโรโฟลิกก็เพียงพอแล้ว
เมื่อถามถึงการดูดซึมโฟลิกเมื่อรับประทานจำนวนมากกว่าปริมาณที่กำหนดต่อวัน พญ.นภาพรรณ กล่าวว่า โฟลิกอยู่ในผักผลไม้ยังสามารถสลายได้ การอยู่ในรูปของยาหรือวิตามันแบบเม็ดก็สามารถสลายได้เหมือนกัน โดยโฟลิกสามารถละลายได้ในน้ำ ดังนั้น เมื่ออยู่ในร่างกายแม้จะได้รับปริมาณมากก็สามารถสลายไปได้ แต่จากงานวิจัยพบว่า การรับประทานแบบสัปดาห์ละครั้ง เช่น เฟอโรโฟลิก 2,800 ไมโครกรัม 1 เม็ดต่อสัปดาห์ พบว่า โฟลิกยังคงอยู่ในเลือดกับเม็ดเลือดได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าอาจไม่ได้ดีเท่าการรับประทานวันละครั้ง แต่ก็ยังมีผลดีอยู่ ซึ่งหาก อภ.ผลิตแบบ 400 ไมโครกรัมต่อวันได้และนำมาให้ใช้ก็เป็นเรื่องดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะตั้งเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องมีการผลิตแยกเป็นวิตามันแบบตัวเดียวหรือไม่