ศูนย์พิทักษ์สิทธิคนพิการ ร้องผู้ตรวจฯ ประสาน อย.ผลิตวิตามินโฟลิกในปริมาณที่องค์การอนามัยโลกกำหนด หวังลดอัตราการเด็กพิการแต่กำเนิด
วันนี้ (2 พ.ย.) น.ส.สุจิตรา หมวดพล นายกสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 และ น.ส.มาลี แซ่หว้า หัวหน้างานศูนย์พิทักษ์สิทธิคนพิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ พร้อมผู้พิการแต่กำเนิดจำนวนหนึ่งเข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ประสานไปยังคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ทำการผลิตวิตามินโฟลิกแอซิด หรือวิตามินบี 9 ขนาด 400 ไมโครกรัม ตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ เพื่อให้ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีโอกาสตั้งครรภ์รับประทานเพื่อลดอัตราการเกิดความพิการแต่กำเนิด โดย น.ส.สุจริตรากล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยโดยองค์การเภสัชกรรม ผลิตวิตามินโฟลิกฯในขนาด 5000 ไมโครกรัมต่อ 1 เม็ด ถือว่ามีปริมาณเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายควรจะได้รับ หากลดปริมาณลงก็จะทำให้มีราคาถูกขึ้น อีกทั้งขนาดจำหน่ายก็บรรจุถึงขวดละ 1 พันเม็ด มีอายุการรับประทานเพียง 2 ปี ขณะที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าหญิงวัยเจริญพันธุ์ควรรับประทานก่อน และหลังตั้งครรภ์ 3 เดือน ดังนั้น ถ้าซื้อมารับประทานก็จะเหลือทิ้งทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย รวมถึงวิตามินดังกล่าวถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารเสริม จึงมีข้อความว่า “สตรีมีครรภ์ และเด็กห้ามรับประทาน” ดังนั้นเพื่อไม่สร้างความเข้าใจที่ผิดให้แก่หญิงตั้งครรภ์จึงขอให้ถอดข้อความดังกล่าวออก
“อยากขอให้ประสานให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องรณรงค์สร้างความเข้าใจให้แก่หญิงที่จะตั้งครรภ์เห็นความสำคัญของการกินวิตามินดังกล่าว เพราะจะสามารถลดอัตราการเกิดความพิการแต่กำเนิดของบุตรได้ร้อยละ 20 ถึง 70 โดยเฉพาะมีงานวิจัยขององค์การอนามัยโลกระบุชัดเจนว่าสามารถช่วยลดความพิการของเด็กที่จะเกิดมาเป็นดาวน์ซินโดรม และปากแหว่งเพดานโหว่ได้ ดังนั้น ถ้าหญิงที่จะตั้งครรภ์มีความเข้าใจ เตรียมพร้อมแต่เนิ่น อัตราเด็กที่พิการแต่กำเนิดก็จะลดลง ซึ่งจะเป็นการช่วยรัฐในการประหยัดงบประมาณในการดูแลคนกลุ่มนี้ได้อีกทางหนึ่งด้วย”