ช่วงเวลาครื้มฟ้าครื้มฝนเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นฤดูกาลของผลไม้ “ทุเรียน” เป็นแน่แท้ เพราะต้องยอมรับใสนหนึ่งด้วยว่า ไม่ว่าจะหันไปทางใดก็ตาม ก็จะเห็นทุเรียนสดนั้นวางขายอยู่เต็มไปหมด จนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นผลไม้หน้าทุเรียนอย่างแท้จริง แต่ในขณะเดียวกัน หากรับประทาน “ทุเรียน” มากเกินความจำเป็น ก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ด้วยเช่นกัน
โดย นางกุลพร สุขุมาลตระกูล นักวิชาการโภชนาการชำนาญพิเศษ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า การรับประทานทุเรียนในช่วงอากาศร้อนเป็นสิ่งที่ต้องระวัง แม้ว่าในผลไม้ทุเรียนนั้น จะมีสารอาหารจำพวก วิตามิน แร่ธาตุ และ ใยอาหาร ก็ตามที แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีสารจำพวก กำมะถัน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณมาก ทำให้การทานทุเรียนนั้นจะได้รับพลังงานสูงขึ้นไปด้วย เปรียบง่ายๆ คือ ถ้าทานรับประทานทุเรียนไปเพียงครึ่งเม็ดกลาง จะได้รับพลังงานไปถึง 200 กิโลแคลอรี่ เทียบได้กับข้าวยำปักษ์ใต้ 1 จาน ก๋วยเตี๋ยวปลาเส้นเล็กน้ำ 1 ชาม หรือ ข้าวราดแกงส้มผัก 1 จาน เลยทีเดียว
นอกจากนี้ นางกุลพร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับประทานทุเรียน 1 เม็ดกลางจะได้รับค่าน้ำตาลถึง 4 ช้อนชา และน้ำมันถึง 3 ช้อนชา แล้ว ซึ่งถ้าเปรียบกับผู้ชายและผู้หญิงวัยทำงานแล้ว ควรจะได้ค่าน้ำตาลเฉลี่ยต่อวันที่ 6 และ 4 ช้อนชาตามลำดับ จึงทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่จะรับประทานรสหวาน นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน กับ โรคหลอดเลือดหัวใจ นั้น ควรจะรับประทานให้น้อยที่สุด หรือ นานๆ กินสักครั้ง ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยโรคไต ไม่แนะนำให้รับประทานเด็ดขาด เพราะในผลทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง อาจจะส่งผลต่ออาการของโรคได้
และสิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือ เลือกอาหารที่ใช้วิธีการปรุงที่ไม่ใช้น้ำมัน กะทิ และไม่หวาน หรือ ควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง และออกกำลังกายอย่างน้อยประมาณ 30 นาที
โดย นางกุลพร สุขุมาลตระกูล นักวิชาการโภชนาการชำนาญพิเศษ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า การรับประทานทุเรียนในช่วงอากาศร้อนเป็นสิ่งที่ต้องระวัง แม้ว่าในผลไม้ทุเรียนนั้น จะมีสารอาหารจำพวก วิตามิน แร่ธาตุ และ ใยอาหาร ก็ตามที แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีสารจำพวก กำมะถัน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณมาก ทำให้การทานทุเรียนนั้นจะได้รับพลังงานสูงขึ้นไปด้วย เปรียบง่ายๆ คือ ถ้าทานรับประทานทุเรียนไปเพียงครึ่งเม็ดกลาง จะได้รับพลังงานไปถึง 200 กิโลแคลอรี่ เทียบได้กับข้าวยำปักษ์ใต้ 1 จาน ก๋วยเตี๋ยวปลาเส้นเล็กน้ำ 1 ชาม หรือ ข้าวราดแกงส้มผัก 1 จาน เลยทีเดียว
นอกจากนี้ นางกุลพร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การรับประทานทุเรียน 1 เม็ดกลางจะได้รับค่าน้ำตาลถึง 4 ช้อนชา และน้ำมันถึง 3 ช้อนชา แล้ว ซึ่งถ้าเปรียบกับผู้ชายและผู้หญิงวัยทำงานแล้ว ควรจะได้ค่าน้ำตาลเฉลี่ยต่อวันที่ 6 และ 4 ช้อนชาตามลำดับ จึงทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่จะรับประทานรสหวาน นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน กับ โรคหลอดเลือดหัวใจ นั้น ควรจะรับประทานให้น้อยที่สุด หรือ นานๆ กินสักครั้ง ได้ แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยโรคไต ไม่แนะนำให้รับประทานเด็ดขาด เพราะในผลทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง อาจจะส่งผลต่ออาการของโรคได้
และสิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือ เลือกอาหารที่ใช้วิธีการปรุงที่ไม่ใช้น้ำมัน กะทิ และไม่หวาน หรือ ควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง และออกกำลังกายอย่างน้อยประมาณ 30 นาที