สธ. เผย ประชาชนร่วมพระราชพิธีเป็นลมจำนวนมากในทุกกลุ่มวัย เหตุพักผ่อนไม่เพียงพอ อากาศร้อนสลับฝน อยู่รวมกันหนาแน่น ทำอากาศถ่ายเทไม่สะดวก มีผู้รับบริการหน่วยแพทย์ 16,000 คน นำส่ง รพ. 67 คน เผยจัดทีมแพทย์ดูแลประชาชนต่อเนื่องหลังเสร็จพระราชพิธี
วันนี้ (26 ต.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการดูแลประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากหน่วยแพทย์/ปฐมพยาบาล งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2560 มีผู้มารับบริการหน่วยแพทย์รวม 1.6 หมื่นกว่าคน ส่วนใหญ่มารับบริการด้วยอาการอ่อนเพลียเป็นลม ตะคริว อุบัติเหตุ และ เวียนศีรษะ ได้ให้การปฐมพยาบาลด้วยยาดมแอมโมเนีย ทำแผล จ่ายยา นอกจากนี้ ยังมีผู้มารับบริการตรวจโรคและรักษา 2,200 กว่าคน นำส่งโรงพยาบาล 67 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัวอาการรุนแรงขึ้นจากความอ่อนเพลียและพักผ่อนน้อย
“มีประชาชนเป็นลมในหลายกลุ่มอายุ ทั้งผู้สูงอายุ วัยทำงาน เด็กเล็ก เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ ประกอบกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงร้อนสลับฝนตก รวมทั้งการที่ประชาชนอยู่กันอย่างหนาแน่น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งทีมแพทย์และทีมจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์ จะเฝ้าระวังพร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง” นพ.ปิยะสกล กล่าว
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขอแนะนำผู้เข้าร่วมพระราชพิธีและถวายความอาลัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรมีผู้ติดตาม ญาติ ดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย คล้ายจะเป็นลม ขอแนะนำให้ญาติ หรือ บุคคลใกล้เคียง แจ้งทีมแพทย์ หรือทีมจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ โดยให้สังเกตที่ปลอกแขนสีขาวมีกากบาทสีเขียว หรือ รีบพาไปพบแพทย์ตามจุดให้บริการตามจุดต่างๆ ให้บริการปฐมพยาบาล 21 จุด รอบพื้นที่สนามหลวง หากอาการไม่ดีขึ้นจะส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง หรือโทรสายด่วน 1669 และสายด่วนสุขภาพจิต 1323 นอกจากนี้ หลังเสร็จงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้สั่งการให้ปลัด สธ. จัดหน่วยแพทย์ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทีมแพทย์จาก 12 เขตสุขภาพ ที่มีมากกว่า 4,000 ทีม หมุนเวียนเข้ามาเสริมการทำงานกับทีมแพทย์ในส่วนกลางจากสังกัดต่างๆ เพื่อดูแลประชาชนด้านสุขภาพอนามัยให้ดีที่สุด