เตือนลุยน้ำท่วมระวังเจอ “พยาธิสตรองจีลอยด์” ตัวอ่อนชอนไชเข้าทางผิวหนังได้ ก่ออาการท้องเสียเรื้อรัง เสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด แนะสวมเสื้อผ้ามิดชิด ใช้ถุงพลาสติกหุ้มเท้า
วันนี้ (19 ต.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ขณะนี้ ขอเตือนประชาชนทุกพื้นที่ให้ระมัดระวังสัตว์เลื้อยคลาน แมลงมีพิษเข้าบ้านและอาจถูกกัดหรือต่อยได้ โดยเฉพาะตู้ รองเท้า เสื้อ ผ้าเช็ดเท้า ท่อต่างๆ หรือตามขอบประตู หน้าต่างของบ้าน เป็นต้น หากพบเจอสัตว์มีพิษควรตั้งสติให้ดี และเรียกผู้ชำนาญมาช่วย ทั้งนี้ ผู้ประสบอุทกภัยควรจัดเก็บสิ่งของและเครื่องใช้ต่างอย่างเป็นระเบียบ สะอาดตาสอดส่องตามมุมอับของบ้านเป็นประจำ และควรสำรวจสิ่งแปลกปลอมก่อนใส่รองเท้าทุกครั้ง
“กรณีถูกแมลงมีพิษกัดหรือต่อย ให้รีบล้างบริเวณแผลด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่หลายๆ ครั้ง ทาแผลด้วยแอมโมเนีย หรือครีมไตรแอมซิโนโลน หากมีอาการปวดมาก หรือมีอาการแพ้ เช่น หนังตาบวม หายใจไม่สะดวก ควรรีบไปพบแพทย์ สำหรับกรณีถูกงูกัด ควรจดจำลักษณะของงูว่าเป็นงูชนิดใด เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด ลดการเคลื่อนไหวอวัยวะที่ถูกงูกัด และไม่ควรขันชะเนาะ เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นขาดเลือดไปเลี้ยงเกิดเป็นเนื้อตาย และห้ามกรีดแผล ดูดแผล ใช้ไฟหรือไฟฟ้าจี้ที่แผล โปะน้ำแข็ง สมุนไพรพอกแผล ดื่มสุรา กินยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของแอสไพริน ที่สำคัญ ให้นำส่งสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและโดยเร็วที่สุด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังต้องระวังพยาธิสตรองจีลอยด์ ที่อันตรายอาศัยอยู่ในพื้นดินที่ชื้นแฉะสามารถก่อโรคได้ โดยพยาธิตัวอ่อนที่เข้าสู่ร่างกายทางผิวหนัง จะเคลื่อนที่ไปในร่างกายทำนองเดียวกับระยะตัวอ่อนพยาธิปากขอ ผิวหนังบริเวณที่พยาธิตัวอ่อนไชเข้าไป จะเกิดเป็นตุ่มแดงคัน และเกิดรอยโรคนูนแดงเป็นทางคดเคี้ยว พยาธิระยะตัวเต็มวัยที่ลำไส้เล็ก จะทำให้เกิดอาการท้องเสีย ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจะเกิดโรคอุจจาระร่วงเรื้อรัง และเกิดภาวะขาดสารอาหาร
“หากพยาธิชนิดนี้เดินทางไปอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย อาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดจนเสียชีวิตได้ หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิด สวมใส่เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว พร้อมนำถุงพลาสติกหุ้มเท้าทับปลายขากางเกงแล้วรัดด้วยเชือกหรือยาง และหมั่นล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง” นพ.สุวรรณชัย กล่าว