xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด สธ.แจ้งความเอาผิด หลังถูกสื่อออนไลน์ตัดต่อคำพูดผลสอบ ขรก.ลวนลามสาว จนเสียหายหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปลัด สธ. แจ้งความดำเนินคดีหลังถูกสื่อออนไลน์ตัดต่อคำพูดผลสอบ ขรก. ลวนลามสาว ทำสังคมเกิดความเข้าใจผิด ถูกต่อว่าได้รับความเสียหาย ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และหน้าที่การงาน ด้าน ตร. สอบหมดทั้งคนโพสต์ คอมเมนต์ แชร์

วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินทางมาแจ้งความต่อ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอให้สอบสวนกรณีได้รับความเสียหายจากการตัดต่อข้อความเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดีย เรื่องผลการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการลวนลามลูกจ้างสาว ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด

นพ.โสภณ กล่าวว่า ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการที่ลวนลามลูกจ้างหญิงนั้น ชัดเจนว่า มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง แต่กลับมีการตัดต่อข้อความ โดยดึงเพียงข้อความคำให้การของผู้ถูกสอบสวนมาส่วนหนึ่งเท่านั้น ว่า “เป็นในเชิงหยอกล้อ ไม่ได้มีเจตนาชู้สาว” ซึ่งแม้ผู้ถูกสอบจะให้การเช่นนั้น แต่คณะกรรมการเห็นว่าต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง แต่เมื่อเผยแพร่ข้อความสั้นๆ พร้อมภาพออกไปทางโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และมีการต่อว่าตนเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสียหายทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว และหน้าที่การงาน ในฐานะผู้บังคับบัญชาว่า เหตุใดจึงสรุปผลสอบเป็นเช่นนั้น จึงมาร้องทุกข์ในวันนี้

นพ.โสภณ กล่าวว่า การโพสต์ลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ (Cyber Bullying) ซึ่งตนและครอบครัวได้รับความเสียหายถูกสังคมโซเชียลเข้าใจผิด ถูกต่อว่าอย่างรุนแรงและขยายผลออกไปเป็นวงกว้าง และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ สธ. ซึ่งมีบุคลากรกว่า 3 แสนคน เสียชื่อเสียง ทั้งนี้ เรื่อง Cyber Bullying มีทั้งการเขียนข้อความที่เป็นการดูถูก ต่อว่า ล้อเลียน ด่าทอกันด้วยข้อความหยาบคาย รวมทั้งการใข้ข้อมูลที่เป็นรูปภาพ คลิปวิดีโอทั้งที่เป็นความจริงและไม่เป็นความจริง การตัดต่อภาพ สร้างข้อมูลเท็จไปเผยแพร่ส่งต่อทางสังคมออนไลน์ โดยทำให้ถูกกระทำได้รับความเจ็บปวดทางจิตใจ โดยเฉพาะหากเป็นเด็กและวัยรุ่น ซึ่งมีการศึกษาพบว่า ในวัยรุ่นต่างประเทศนำมาซึ่งภาวะซึมเศร้าและเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายสูง จึงอยากขอให้ทุกคนใข้โซเชียลมีเดียอย่างมีวุฒิภาวะ ตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมดก่อนเชื่อหรือแสดงความคิดเห็นหรือส่งต่อ

ด้าน พล.ต.ต.สุศักดิ์ กล่าวว่า ในการสอบสวนก็คงมีการตรวจสอบ ว่า มีผู้ใดที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายในเรื่องนี้ ทั้งการโพสต์ แสดงความคิดเห็น รวมถึงการแชร์ต่อ ซึ่งโดยหลักในการพิจารณาความผิดคือ ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย ก็จะมีการเชิญเข้ามาพูดคุย ซึ่งการสืบสวนในโลกออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในเรื่องความผิดก็จะมีโทษในเรื่องของหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา และการใส่ข้อมูลอันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้งแถลงข่าวผลการสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการชายลวนลามลูกจ้างสาวนั้น ข้าราชการคนดังกล่าวให้ข้อมูลว่า กระทำจริง แต่เป็นการหยอกล้อ ไม่มีเจตนาคุกคามทางเพศ แต่คณะกรรมการไม่เชื่อ เพราะจากหลักฐานมีชัดเจน จึงเห็นว่า มีความผิดและตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง ( อ่านเพิ่มที่ สธ. ตั้งสอบวินัยร้ายแรง “ขรก.” ลวนลามสาว ชี้คุกคามทางเพศ-ข่มขู่ ด้านผู้บังคับบัญชาเพิกเฉยโดนไม่ร้ายแรง ) แต่ปรากฏว่า มีสื่อออนไลน์แห่งหนึ่งได้มีการตัดแต่งคำพูดของ นพ.โสภณ ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อมีการส่งต่อทางโซเชียลมีเดียออกไปอย่างกว้างขวาง ทำให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงลุกลามไปจนถึงครอบครัว นพ.โสภณ จึงปรึกษากับทางนิติกร และเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพื่อเป็นแบบอย่างว่าไม่ควรมีการตัดแต่งคำพูดจนทำให้เกิดผลกระทบ










กำลังโหลดความคิดเห็น