“อนันต์” ยันบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ยึดหลักวิชาการ ถอดแบบของเดิมอย่างละเอียด ระบุ ถอดกระเบื้องเก่าออก 40% พร้อมแจงสีขาว เกิดจากสีน้ำปูน เหมือนสมัยบูรณะในยุครัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 กระเบื้องของเดิมยังอยู่ถึง 60% เซาะออกแค่ 40% และเก็บไว้ใช้ในวันข้างหน้า
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ชี้แจงกรณีการบูรณปฏิสังขรณ์พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า การบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นไปตามหลักวิชาการการบูรณะทุกประการ เพื่อคงความเป็นโบราณสถานที่มีชีวิต และสำคัญของชาติ ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในการบูรณะครั้งนี้กรมศิลปากร ได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียดก่อนดำเนินงานบูรณะ โดยเน้นให้ความสำคัญต่อการสำรวจและเก็บข้อมูลพระปรางค์ประธาน ปรางค์ประจำมุม บุษบกประจำทิศ รวมทั้งมีงานกะสวนและลอกลายรูปแบบศิลปกรรมต่างๆ เป็นการเก็บข้อมูลไว้ เพื่อเป็นหลักฐานดำเนินงานบูรณะไม่ให้ต่างจากของเดิม ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเก็บลวดลายกระเบื้องประดับพระปรางค์วัดอรุณฯอย่างละเอียด
ทั้งนี้ จากการสำรวจลวดลายประดับพระปรางค์วัดอรุณฯมีทั้งหมด 120 ลวดลาย สำหรับการบูรณะกระเบื้องเคลือบที่เสื่อมสภาพ หรือหลุดร่อนหายไปนั้น ทางกรมศิลปากร ใช้ข้อมูลที่ได้ศึกษาก่อนหน้านี้ โดยมีการจัดทำขึ้นมาใหม่ยึดสี และลวดลายแบบดั้งเดิม ส่วนกระเบื้องที่เสื่อมสภาพได้ดำเนินการเซาะออกไป 40% หรือไม่น้อยกว่า 120,000 ชิ้น จากทั้งหมดกว่า 300,000 ชิ้น เพราะฉะนั้น ลวดลายกระเบื้องของเดิมยังคงเหลืออยู่ 60% จึงยืนยันว่า กรมศิลปากรไม่ได้ถอดกระเบื้องลวดลายของเดิมออกทั้งหมด และการบูรณะใช้ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556 - 2560
“ก่อนที่จะดำเนินการบูรณะ กรมศิลป์ได้เก็บข้อมูลทั้งหมด หากไปดูจุดเฉพาะจะเห็นว่า ลวดลายไม่ต่างจากบูรณะมากนัก แต่ไม่ปฏิเสธว่า การเก็บลายละเอียดบางขั้นตอนปูนที่ฉาบอาจจะไปทับตามขอบ ตามเส้น ลวดลายบ้าง ส่งผลให้ลวดลายบางจุดไม่ชัดเจน หลังจากนี้ กรมศิลปากร จะเข้าไปสำรวจและรายละเอียดที่ไม่เรียบร้อยอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า พระปรางค์สัดอรุณกลายเป็นสีขาว และไม่เหมือนของเดิมนั้น ไม่เป็นความจริง สีขาวของพระปรางค์ เกิดจาการบูรณะที่ฉาบปูนตำ โดยเมื่อเทียบกับภาพถ่ายการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ สมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาล 5 จะพบว่า มีสีขาว ไม่ต่างจากการบูรณะครั้งนี้ ขณะนี้ผมได้มอบหมายให้กองโบราณคดีจัดทำจดหมายเหตุบูรณะพระปรางค์วัดอรุณ เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติด้วย” นายอนันต์ กล่าว
ด้าน พระศากยปุตติยวงศ์ (ต่อศักดิ์ สุนทรวาที) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ในฐานะประธานโครงการบูรณะพระปรางค์และพระมณฑป วัดอรุณฯ กล่าวว่า วัดอรุณฯ ร่วมกับกรมศิลปากร ดำเนินการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ซึ่งจากขั้นตอนในการบูรณะกรมศิลปากร ทำการศึกษาค้นคว้าให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและรักษาความเป็นของแท้ดั้งเดิมให้มากที่สุด และควบคุมดูแลโดยเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรที่มีความชำนาญ ทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มดำเนิน จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ถ้าหากมีผู้ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ สามารถเข้ามาชมความงดงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้ด้วยตนเอง
“อาตมาขอชี้แจง กระเบื้องสีที่นำขึ้นไปประดับบนองค์พระปรางค์ เป็นการซ่อมเปลี่ยนแทนวัสดุเดิม ส่วนพระปรางค์ของเดิมก่อนการบูรณะนั้น จะมีสีออกดำเกิดจากคราบตะไคร่และเชื้อรา จึงทำการซ่อมล้าง เอาสิ่งของที่เสื่อมสภาพออกไป และจำเป็นต้องใช้ของใหม่ปิดทับ ส่วนที่เป็นของดั้งเดิมที่ยังคงสภาพดี เรายังคงไว้สภาพเดิม จึงขอยืนยันว่า สภาพพระปรางค์ที่เก่าแก่สมัยเดิมเป็นสีขาวชัดเจน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเป็นเวลานาน จึงเกิดคราบตะไคร่ ทำให้พระปรางค์มีสีเขียวขุ่นเกาะติดมาเป็นเวลานาน พอทำความสะอาดคราบตะไคร่น้ำและทาสีน้ำปูน จึงทำให้พื้นหลักเป็นสีขาว ตามพระปรางค์แบบดั้งเดิม ส่วนเศษวัสดุจำพวกเศษกระเบื้องที่ผุพังหรือเศษปูนปั้นจากพระปรางค์ ถูกนำไปเก็บไว้ เพื่อใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้า เช่น นำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ดีกว่านำไปทิ้ง” พระศากยปุตติยวงศ์ กล่าว