จิตแพทย์ ชี้ การฉีดยา - วัคซีน กระตุ้นการเกิดอุปทานหมู่ได้ เหตุวิตกกังวลความไม่ปลอดภัยกับสิ่งแปลกใหม่ แนะต้องรีบให้ข้อมูลวัคซีนเอชพีวีมีความปลอดภัย ช่วยลดการเร้าความกังวลในเด็กนักเรียนหญิง ป.5 ที่ต้องฉีดทั่วประเทศได้ ด้าน กรมวิทย์ ย้ำ วัคซีนมีความปลอดภัย ผ่านการตรวจสอบเข้มก่อนใช้
จากกรณีการฉีดวัคซีนเอชพีวีป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้นักเรียนหญิงชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านกร่าง จ.พิษณุโลก แล้วบางส่วนเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก โดยอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) ระบุว่า เกิดจากความวิตกกังวลในการฉีดวัคซีน ทำให้เกิดปรากฏการณ์อุปทานหมู่นั้น
วันนี้ (11 ส.ค.) พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า อาการอุปทานหมู่ที่ผ่านมา มีเหตุการณเกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยส่วนมากเกิดขึ้นในเด็กที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นและวัยรุ่นมากกว่าวัยผู้ใหญ่ และอดีตจะเกิดขึ้นในชนบทมากกว่าเขตเมือง เพราะความเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยมีสาเหตุจากความอ่อนไหวของจิตใจ ความรู้สึกกังวลกับความไม่ปลอดภัยกับสิ่งแปลกใหม่ เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่คุ้นชิน การรับยา การฉีดวัคซีนต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเมื่อมีคนที่เกิดอาการจะกระตุ้นให้คนอื่นเป็นตามไปด้วย ทั้งนี้ หากเด็กมีอาการแล้วได้รับการแก้ไขที่ไม่ถูกต้องก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
“ขอชื่นชมกรมควบคุมโรคที่มีการตอบสนองเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เพราะการฉีดวัคซีนเอชพีวีในเด็ก ป.5 ต้องฉีดทั่วประเทศ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จะได้มีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ทั้งนี้ ต้องมีการให้ความรู้และเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของตัววัคซีน เพราะหากปล่อยไว้จะสามารถเร้าให้เกิดความวิตกกังวลและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก” พญ.อัมพร กล่าวและว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นต้องมีการคัดกรองเด็กที่เป็นต้นตอของอาการ และแยกออกมาเพื่อตรวจสอบสภาพทางจิตใจ ว่า มีความอ่อนไหวมากกว่าปกติหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดปกติควรให้หยุดเรียนแล้วรักษาให้ยาตามความเหมาสมของอาการ สร้างความผ่อนคลายแก่เด็กก่อนปล่อยเขากลับไปรวมกับเพื่อน หากปล่อยไว้อาจมีปัญหาเกิดขึ้นอีก
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนเอชพีวี ปัจจุบันมีวัคซีนเอชพีวีผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. แล้ว 2 ตำรับ คือ ชนิดป้องกัน 2 สายพันธุ์ และป้องกัน 4 สายพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดผ่านการประเมินเอกสารทะเบียนตำรับด้านคุณภาพและยังต้องผ่านการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างในห้องปฏิบัติการเพื่อประกอบการขึ้นทะเบียน ได้แก่ การตรวจสอบทางเคมี-ฟิสิกส์ ความปลอดภัย ความแรง และความเป็นเอกลักษณ์ ตามเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ จากสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในส่วนการรับรองรุ่นการผลิตก่อนจำหน่ายในประเทศนั้น สถาบันชีววัตถุ ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพของผู้ผลิต ร่วมกับการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพของตัวอย่างวัคซีน
“การจะนำมาใช้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องตรวจสอบรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อประชาชนจะได้มั่นใจในวัคซีนเหล่านี้ว่ามีคุณภาพ ปลอดภัย และประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล” อธิบดีกรมวิทย์ กล่าวและว่า การติดเชื้อ HPV ติดต่อโดยการสัมผัส โดยพบว่าติดต่อทางเพศสัมพันธุ์มากที่สุด ปัจจุบันยังไม่มียาที่ใช้รักษาการติดเชื้อ HPV ให้หายขาด การติดเชื้อจะหายไปเองได้ประมาณ 70% ในปีแรก และหายไปเกือบ 90% ในปีที่ 2 มีเพียงผู้ติดเชื้อส่วนน้อย (ประมาณ 5-10%) ที่เชื้อจะคงอยู่ในร่างกายแล้วพัฒนาทำให้เกิดเป็นโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก การป้องกันการเกิดโรคสามารถทำได้โดยดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหาร ผัก ผลไม้ที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ใส่ถุงยางอนามัยชายทุกครั้งเมื่อมีการร่วมเพศ และการฉีดวัคซีน
