xs
xsm
sm
md
lg

การรับประทานยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผศ.พญ.วีรวดี จันทรนิภาพงศ์
ภาควิชาเภสัชวิทยา

เมื่อมีอาการไข้หรือปวดจากสาเหตุใดก็ตาม ยาขนานแรกที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง คือ พาราเซตามอล ยานี้มีวิธีรับประทานอย่างไร ถ้ารับประทานมากไปเป็นอันตรายหรือไม่ มาหาคำตอบกัน

พาราเซตามอล หรือ อะเซตามิโนเฟน เป็นยาแก้ปวดลดไข้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย หาซื้อได้ง่าย และมักจะมีติดไว้ประจำบ้าน เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกวิธี พาราเซตามอลสามารถบรรเทาปวดจากสาเหตุต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดจากข้อเสื่อม ปวดกล้ามเนื้อ และใช้เป็นยาลดไข้ พาราเซตามอลที่เป็นยาเดี่ยวจะบรรเทาอาการปวดขั้นอ่อนถึงปานกลางเท่านั้น ไม่มีผลต่ออาการปวดขั้นรุนแรง เช่น แผลผ่าตัดใหญ่ หรือมะเร็ง และไม่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

พาราเซตามอลมีหลายรูปแบบ ในรูปแบบรับประทานมีทั้งยาเม็ดและยาน้ำ ที่นิยมรับประทาน คือ ยาเม็ดที่มีตัวยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด โดยทั่วไปในผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัมขึ้นไป รับประทานได้ครั้งละไม่เกิน 2 เม็ด (1,000 มิลลิกรัม) และวันละไม่เกิน 8 เม็ด (4,000 มิลลิกรัม) โดยเฉพาะสำหรับความปวดหลังการผ่าตัด นอกจากนี้ควรเว้นระยะห่างของมื้อยาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง และต้องไม่ใช้ยาเกิน 4,000 มิลลิกรัม หรือ 8 เม็ดต่อวัน และไม่ควรใช้ยาติดต่อกันเกิน 5 วัน หากจำเป็นต้องใช้นานกว่านี้ควรปรึกษาแพทย์

นอกจากนี้ ยังต้องระวังการใช้ยาซ้ำซ้อนเมื่อใช้ยาร่วมกับยาสูตรผสมที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ยาสูตรผสมบรรเทาอาการของโรคหวัด ยาคลายกล้ามเนื้อ เพราะอาจได้รับพาราเซตามอลเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นก่อนรับประทานยาทุกชนิดควรอ่านฉลากให้ละเอียด หรือถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
การได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากการรับประทานอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ตั้งใจ บ่อยกว่าการตั้งใจกินยาขนาดสูงเพียงครั้งเดียว ซึ่งการได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาดจะส่งพิษต่อตับ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องบริเวณด้านขวาบน มีตับโต กดเจ็บ ถ้าตรวจเลือดอาจพบค่าที่บ่งว่าการทำงานของตับผิดปกติ ถ้าตับถูกทำลายมากขึ้น อาจพบอาการของตับวายเฉียบพลัน ได้แก่ ตัวเหลือง ตาเหลือง สับสน ซึม ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้ และที่สำคัญ ไม่ควรดื่มสุรา หรือรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาต้านวัณโรค ยากันชักร่วมกับการรับประทานยาพาราเซตามอล เพราะอาจทำให้พิษต่อตับของยาพาราเซตามอลเพิ่มขึ้น

หากพบเห็นผู้ที่ได้รับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาดเฉียบพลัน ไม่แนะนำให้ทำให้อาเจียนเนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการสำลักเข้าปอด แต่ควรรีบช่วยเหลือด้วยการนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากพิษจากยาพาราเซตามอลเกินขนาดมีวิธีการดูแลรักษาและยาแก้พิษจำเพาะ
----------

กิจกรรมดีๆ ที่ศิริราช
#จัดบรรยายพร้อมสาธิตเรื่อง “การดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก” ในวันที่ 9 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00-15.00 น. ณ ห้องบรรยาย 1 ตึกศรีสังวาลย์ ชั้น 8 รพ.ศิริราช (รับจำนวนจำกัด) ขอเชิญผู้สนใจที่ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารแล้วมีอาการไอ สำลัก และกลืนอาหารลำบากร่วมฟังโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามและลงทะเบียนได้ที่ โทร. 09 1029 0699 (ในวันเวลาราชการ)

#จัดอบรมเรื่อง “การเสริมศักยภาพเด็กที่มีภาวะออทิสติก” ในวันที่ 23 สิงหาคม 2560 เวลา 08.00-15.30 น. ณ ห้องตรีเพ็ชร์ อาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ชั้น 15 ขอเชิญครู ผู้ปกครองและผู้สนใจเข้ารับการอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (รับจำนวนจำกัด) ลงทะเบียนได้ที่ http;//www.1.si.mshidol.ac.th/division/conference สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 24195830-1 (อัยยะวรรณ ราชภักดี)
กำลังโหลดความคิดเห็น