ปลัด สธ. เผย รวมเงินเดือนในงบเหมาจ่ายบัตรทอง 15 ปี ไม่แก้ปัญหาการกระจายบุคลากร ไม่เป็นธรรมต่อประชาชนในพื้นที่ ชี้ รพ.ขนาดเท่ากัน บุคลากรเท่ากัน แต่อาวุโสและอายุงานต่างกัน ก็ถูกหักเงินเดือนไม่เท่ากัน ทำเหลือเงินจัดบริการไม่เท่ากัน
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การบริหารจัดการงบเหมาจ่ายรายหัว โครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใน 15 ปีผ่านมา โดยรวมเงินเดือนไว้แล้วไปหักออกจากงบรายหัวที่จัดสรรให้โรงพยาบาล โดยหวังผลให้มีการกระจายบุคลากรนั้น นอกจากไม่ได้มีผลต่อการกระจายบุคลากรแล้ว ยังมีผลกระทบต่อโรงพยาบาลในการจัดบริการประชาชนมาก เช่น โรงพยาบาลชุมชนที่มีขนาดเท่ากันและมีบุคลากรเท่ากัน แต่มีบุคลากรมีอาวุโสและอายุงานมาก โรงพยาบาลชุมชนแห่งนั้นจะถูกหักเงินเดือนมากกว่า เช่น พยาบาลอาวุโส จะได้รับเงินเดือน เงินต่างๆ มากกว่าพยาบาลจบใหม่ 2 - 3 เท่าตัว โรงพยาบาลนั้นจึงถูกหักเงินเดือนไปมากจนแทบไม่เหลือเงินซื้อยาให้ประชาชนเพียงพอ บางแห่งถูกหักเงินเดือนไปมากกว่าโรงพยาบาลระดับเดียวกันมากถึงปีละ 10 - 20 ล้านบาท รวม 15 ปีผ่านมา น่าจะถูกหักมากเกินไปถึงรวม 150 - 200 ล้านบาท ต้องใช้วิธีการปรับเกลี่ยช่วยเหลือกันในระดับจังหวัดและเขต
“นอกจากนี้ ผลจากการรวมเงินเดือนไว้ในงบเหมาจ่ายรายหัว ส่งผลให้ในปี 2559 โรงพยาบาลชุมชน จำนวน 441 แห่ง หรือเกือบครึ่งจากทั้งหมด 886 แห่ง ได้รับงบประมาณต่อหัวประชากร หลังหักเงินเดือนและค่าตอบแทนน้อยกว่า 1,000 บาท โดย 9 แห่งเหลืองบน้อยกว่า 100 บาท อีก 34 แห่ง ได้รับ 100 - 499 บาท และ379 แห่ง ได้รับ 500 - 999 บาท” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนการจัดสรรงบค่าเสื่อมที่ผ่านมา โดยจัดสรรร้อยละ 90 ลงไปที่โรงพยาบาลชุมชนตรง ทำให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไม่มีงบเพียงพอในการซ่อมแซมอาคารและครุภัณฑ์ขนาดใหญ่ได้ เมื่อปรับเป็นการจัดสรรไปไว้ที่เขตร้อยละ 10 ที่จังหวัดร้อยละ 20 นั้น จะทำให้นำงบประมาณส่วนนี้ไปจัดสรรเพื่อซ่อมแซมตัวอาคารและครุภัณฑ์ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่จำเป็นได้มากกว่า ซึ่งจะมีคณะกรรมการในระดับจังหวัด และในระดับเขตที่ประกอบด้วย สปสช. เขต และเขตสุขภาพ สธ. ร่วมกันพิจารณา