รพ.จุฬาภรณ์ ผลิตสาร “แกลเลียม 68 พีเอสเอ็มเอ” ใช้ตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากที่แรกของไทย มีความแม่นยำสูง เผย ใช้ตรวจระยะของโรค อาการกำเริบของโรค และติดตามผลการรักษา ช่วยแพทย์วางแนวทางรักษาแม่นยำขึ้น เตรียมให้บริการและผลิตขาย รพ. อื่น ก.ค. นี้ ในอัตราพิเศษ ถวายพระราชกุศล “เจ้าฟ้าจุฬาภรณฯ”
วันนี้ (30 มิ.ย.) รศ.พญ.ชนิสา โชติพานิช ผู้อำนวยการศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ฝ่ายเวชศาสตร์นิวเคลียร์และเพทสแกน แถลงข่าวความสำเร็จในการผลิตสารเภสัชรังสี “แกลเลียม-68 พีเอสเอ็มเอ (68 GA-PSMA: Gallium-68 Prostate Speclfic Membrane)” เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากที่แรกในประเทศไทย ว่า ศูนย์ไซโคลตรอนฯ เปิดดำเนินการมากว่า 11 ปี ทำการศึกษาวิธีการตรวจและให้การรักษา โรคมะเร็ง และโรคทางระบบสมอง เช่น อัลไซเมอร์ และ พาร์กินสัน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการผลิตสารเภสัชรังสีสำคัญมาแล้ว 7 ตัว ล่าสุด พัฒนาสารเภสัชรังสีตัวที่ 8 คือ 68 GA-PSMA เพื่อตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาย ซึ่งมีความแม่นยำและจำเพาะต่อโรคสูงกว่า “คอลีน (Choline)” โดยผลิตได้เมื่อ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ถือว่าผลิตได้เร็วที่สุดในทุกตัวที่ผ่านมา ทั้งนี้ การผลิตได้นำสารตั้งต้นเข้ามาจากประเทศเยอรมนี
“68GA-PSMA เป็นสารที่ทั่วโลกนิยมใช้ในการตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ที่ไม่สามารถนำเข้าสารสำเร็จรูปมาใช้ในประเทศไทยได้ เนื่องจากสารดังกล่าวมีครึ่งชีวิตสั้นเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ที่ผ่านมา ผู้ป่วยจึงต้องเดินทางไปตรวจที่ตางประเทศ จึงมีการพัฒนาขึ้นเองและสำเร็จเป็นที่แรกของประเทศไทย” รศ.พญ.ชนิสา กล่าวและว่า ส่วนสารตัวที่ 9 อยู่ระหว่างการเพื่อใช้ในการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และสารตัวที่ 10 อยู่ระหว่างการศึกษา เป็นสารที่ใช้สำหรับการตรวจหามะเร็งในอวัยวะอื่นๆ ต่อไป
รศ.พญ.ชนิสา กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ในการใช้สารดังกล่าว คือ เมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากแล้วเท่านั้น โดยจะใช้เพื่อดูระยะของโรคมะเร็ง ดูอาการกำเริบของโรค และใช้ตรวจว่า มะเร็งตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือรังสีรักษาหรือไม่ โดยจะฉีดให้กับผู้ป่วยโดยคำนวณจากน้ำหนักตัว จากนั้นเมื่อเข้าสู่การทำเพท-ซีทีสแกน ก็จะทำให้จุดที่มีปัญหา หรือเซลล์ที่มีปัญหาเกิดการเรืองแสงขึ้นมา ทั้งนี้ ยืนยันว่า สารดังกล่าวไม่มีอันตรายต่อร่างกาย โดยขณะนี้เตรียมที่จะนำสารดังกล่าวมาให้บริการเป็นครั้งแรกในช่วง ก.ค. นี้ ในอัตราราคาพิเศษ คือ ครั้งละ 25,000 บาท เพื่อให้คนไทยเข้าถึงบริการมากขึ้น เป็นการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ นอกจากการให้บริการตรวจแล้ว ยังผลิตส่งขายให้กับโรงพยาบาลที่มีเครื่องเพท-ซีทีสแกน แต่ไม่มีเครื่องผลิตสารเภสัชรังสีด้วย เบื้องต้นมี รพ.ศิริราช และ รพ.จุฬาลงกรณ์ ประสานขอซื้อสารดังกล่าวเข้ามาแล้ว โดยคิดราคาเดียวกับที่ให้บริการตรวจ
ด้าน นพ.วิสุทธิ์ ล้ำเลิศธน แพทย์อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา หัวหน้างานอายุรกรรม รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นโรคที่พบมากเป็นอันดับที่ 4 ในผู้ชายไทย รองจากโรคมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนใหญ่พบในผู้ชายวัย 50 ปีขึ้นไป และพบมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยคนอายุ 70 ปีพบได้ 90 ต่อแสนประชากร ส่วนวัย 75 ปี พบได้ 110 ต่อแสนประชากร ทั้งนี้ การใช้สารเภสัชรังสีดังกล่าวในกลุ่มผู้ป่วยเดิมที่ทำการอยู่รักษาแล้วดูว่าโรคกำเริบหรือไม่ ซึ่งจะมีความแม่นยำ ทำให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้นด้วย