ตั้ง “สาธารณสุขจังหวัด-อำเภอ” หน่วยบริการ รับเงินป้องกันโรค “บัตรทอง”

สธ. ตั้ง “สาธารณสุขจังหวัด - อำเภอ” เป็นหน่วยบริการ รับเงินส่งเสริมป้องกันโรคจาก “บัตรทอง” แทน รพ. ยอมรับ รพ. รับเงินป้องกันโรคปีแรก หวั่นผิดระเบียบใช้เงินกับภาค ปชช. ทำให้มีปัญหา ยินดีให้ตรวจสอบงบ ระบุ “บิ๊กเข้” สั่ง สธ. ประกาศการใช้งบของ สธ. และ รพ. หน้าเว็บไซต์

วันนี้ (28 มิ.ย.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีบางฝ่ายตั้งคำถามการใช้งบประมาณของ สธ. และโรงพยาบาล ว่า ใช้จ่ายอย่างไร ล่าสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ สธ. นำเรื่องการใช้งบประมาณของ สธ. ขึ้นเว็บไซต์เพื่อแสดงต่อสาธารณชนให้รับทราบ ซึ่งจะระบุว่า สธ. ให้งบประมาณอย่างไร และโรงพยาบาลแต่ละแห่งใช้งบประมาณเหมาจ่ายรายหัวจำนวนเท่าไร โดยให้กลุ่มประกันของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการอยู่ ตรงนี้มองว่าเป็นจุดที่ดีทำให้ประชาชนรับทราบ เบื้องต้นอาจแสดงการใช้งบประมาณช่วงปี 2559 - 2560 ก่อนว่ามีการใช้อย่างไร ซึ่งจะบอกถึงการใช้งบประมาณราว 5,000 ล้านบาท ที่ทางรัฐบาลให้มาบรรเทาปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องด้วย ว่า ให้ไปเท่าไรอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) น่าจะได้รับแนวทางเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อเรียกร้องให้ตรวจสอบ รพ. เรื่องการใช้งบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ร่างกฎหมายบัตรทองกลับแก้ไขให้หน่วยบริการใช้งบส่วนนี้ นพ.โสภณ กล่าวว่า ยอมรับว่า เรื่องส่งเสริมป้องกันโรค ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) มีความถนัดมากกว่าโรงพยาบาล และมีการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนมานาน แต่เมื่อตีความว่า สสจ. สสอ. ใช้งบก้อนนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน่วยบริการอย่างโรงพยาบาล จึงโอนงบก้อนนี้ให้โรงพยาบาลโดยตรง ซึ่งเป็นปีแรกทำให้มีปัญหา เนื่องจากจะนำมาใช้กับเครือข่ายเอกชนภาคประชาชนก็กลัวผิดระเบียบ ถูก สตง. ตรวจสอบ ตนจึงออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเร็วๆ นี้ ให้ สสจ. และ สสอ. เป็นหน่วยบริการด้วย เพราะการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคถือเป็นส่วนหนึ่งของการบริการ อย่างเช่น การตรวจสอบไก่ตาย หรือเด็กไปเข้าค่ายแล้วเกิดอุจจาระ ก็ถือว่าเป็นการทำงานหาสาเหตุและแนวทางป้องกันโรค เป็นต้น เพื่อให้รับเงิน สปสช. ในการทำเรื่องส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น เครือข่ายประชาสังคมจะทำงานส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคก็สามารถประสานกับ สสจ. ได้เลย

นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนที่จะให้ตรวจสอบการใช้งบนั้น ไม่มีปัญหา สามารถตรวจสอบได้ และได้เร่งให้สรุปเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบการใช้งบอยู่ โดยเฉพาะเงินที่เข้าไปยัง สสจ. ก่อนหน้านี้ ที่ว่าใช้ไม่ได้ก็จะต้องตรวจสอบทั้งหมด คาดว่า จะสรุปได้ในเร็วๆ นี้ โดยยึดการใช้โดยสุจริตใจเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้ งบประมาณส่งเสริมป้องกันโรคที่เข้ามามีเป้าหมายลดป่วยลดเสียชีวิต ซึ่งหากทำตามเป้าหมายแล้ว เหลือเงินก็สามารถนำไปบริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากแยกเงินส่งเสริมป้องกันออกจากการรักษา โดยให้ สสจ. หรือ สสอ. ทำเรื่องนี้ และคลินิกหมอครอบครัวควรเป็นจุดรับเงินส่งเสริมป้องกัน และเงินผู้ป่วยนอกระดับปฐมภูมิ แต่ก็ต้องมาหารือและวางระบบต่อไปในอนาคต