สธ. ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ “ผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา” พร้อมกันทั่วประเทศ เผย การบริจาคอวัยวะถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ 1 คน สามารถช่วยต่อชีวิตคนได้ถึง 8 คน เชิญชวนผู้ใจบุญแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ที่โรงพยาบาลทั่วไปได้ทุกแห่ง
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. นำคณะผู้บริหาร สธ. สภากาชาดไทย และครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ร่วมพิธีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา และลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนโครงการพาผู้ป่วยรอปลูกถ่ายกระจกตา กลับบ้าน ระหว่าง เขตสุขภาพที่ 4, ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย และ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ในวันนี้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้บริจาคอวัยวะและดวงตาพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อแสดงความขอบคุณในบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ที่ผู้ที่จากไปได้ทำไว้กับเพื่อนมนุษย์ การให้ของผู้บริจาค รวมทั้งญาติผู้บริจาคถือเป็นการบริจาคทานอันยิ่งใหญ่ โดย 1 คน สามารถช่วยต่อชีวิตคนได้ถึง 8 คน ซึ่งการที่กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยที่รอบริจาคอวัยวะได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการบริจาคจากผู้เสียชีวิตและการอนุญาตจากญาติ
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข มีแผนพัฒนาระบบบริการและแผนยุทธศาสตร์การรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะได้สนับสนุนให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชนที่พร้อม รับบริจาคอวัยวะและดวงตาในผู้เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย โดยบูรณาการทำงานร่วมกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะและศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ผลการดำเนินการที่ผ่านมา สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะได้เพิ่มขึ้น ประมาณปีละ 400 เป็น 500 ราย และผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาได้ ประมาณปีละ 700 - 800 ราย โดยในปี 2560 เดือนพฤษภาคม มีผู้บริจาคอวัยวะที่สมองตาย 198 ราย ช่วยให้ผู้ป่วยได้ปลูกถ่ายอวัยวะแล้ว 449 ราย
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้รอรับบริจาคอวัยวะ 5,404 ราย และ ดวงตา 11,230 ราย (31 พฤษภาคม 2560) ดังนั้น ในปี 2562 กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าจัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ปลูกถ่ายไตและมีทีมผ่าตัดนำอวัยวะออกครบในระดับเขตสุขภาพ โดยสิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินงาน คือ การรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญและสนใจที่จะบริจาคอวัยวะและดวงตาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการที่โรงพยาบาลมีศักยภาพในการปลูกถ่ายอวัยวะเพิ่มมากขึ้น มุ่งสู่เป้าหมาย “เพิ่มปลูกถ่าย ลดการตาย ได้คิวเร็ว” โดยคาดว่าจะมีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ที่จะรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ขอรับบริจาคอวัยวะและดวงตา ผ่านไปยังชุมชนผ่านทางผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และพระสงฆ์ที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของชาวบ้าน