กาฬสินธุ์ - ชาวกาฬสินธุ์ชื่นชมครอบครัว นางบุญส่ง เงาแสง หรือที่รู้จักกันในนามกำนันบุญส่ง ซึ่งเป็นกำนันคนแรกของจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าของร้านอาหารอีสานลาบก้อยชื่อดังที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจตีบ และเป็นผู้บริจาคดวงตารายแรกของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เพื่อส่งต่อสภากาชาดไทยต่อไป โดยสามารถนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้พิการทางสายตาได้มองเห็นเป็นปกติได้ถึง 2 คน
วันนี้ (21 เม.ย.) นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ มอบพวงหรีดเพื่อแสดงความอาลัย และขอบคุณครอบครัว นางบุญส่ง เงาแสง อายุ 72 ปี หรือที่ชาวกาฬสินธุ์รู้จักกันในนามกำนันบุญส่ง ซึ่งเป็นกำนันคนแรกของจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าของร้านอาหารอีสานลาบก้อยชื่อดังในจังหวัด
โดยนางบุญส่ง เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา และตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 68 ม.5 บ้านเปือย ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด ซึ่งนางบุญส่ง เป็นผู้บริจาคดวงตารายแรกของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เพื่อส่งต่อสภากาชาดไทยต่อไป โดยสามารถนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้พิการทางสายตาได้มองเห็นเป็นปกติได้ถึง 2 คน
นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ด้วยโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญ และความจำเป็นในการพัฒนาการขอรับบริจาคอวัยวะ เพื่อเชื่อมโยงสอดคล้องต่อเขตสุภาพที่ 7 กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจากสถิติสภากาชาดไทยปี 2558 มีผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะ (ทุกอวัยวะ) จำนวน 5,018 ราย แต่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 463 ราย (ร้อยละ 9.22) และแม้ว่าในปี 2558 จะมีผู้บริจาคสมองตายสูงสุด คือ 206 ราย แต่จำนวนคนไข้รอรับอวัยวะเพิ่มก็มีจำนวนมากขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับอุปสรรคที่สำคัญของการปลูกถ่ายอวัยวะ คือ การขาดแคลนอวัยวะที่จะนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก และส่งผลให้ผู้รอรับอวัยวะเสียชีวิตก่อนได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ดังนั้น โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จึงได้จัดตั้งศูนย์ขอรับบริจาคอวัยวะขึ้น เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 และได้จัดทำโครงการ “หนึ่งคนให้ หลายคนรับ จงรักภักดีต่อพ่อหลวง” เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2559
พร้อมกับได้เชิญบุคลากรทางการแพทย์ทุกโรงพยาบาลในจังหวัด และหน่วยงานราชการในจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร่วมการอบรม และได้เริ่มดำเนินการเรื่อยมา โดยมีการออกหน่วยขอรับบริจาคอวัยวะ ร่วมกับหน่วยรับบริจาคโลหิต ซึ่งมีจำนวนผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ จนถึงปัจจุบันรวม 322 คน แต่ยังไม่มีผู้แสดงความจำนงเสียชีวิต
“สำหรับผู้บริจาครายแรกนี้ ได้แก่ ท่านกำนันบุญส่ง เงาแสง หลังจากที่ท่านเสียชีวิต ครอบครัวและญาติได้แจ้งเจตจำนงบริจาคดวงตา เพื่อบริจาคให้แก่ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ได้นำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้พิการทางสายตา เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี และชาวกาฬสินธุ์ต่างชื่นชมจำนวนมาก”
ด้าน นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมผู้วายชนม์ และครอบครัว และขออนุโมทนาในมหากุศลของผู้วายชนม์ในการบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ และขอประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจว่าการบริจาคอวัยวะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จำนวนมากที่รอความหวังว่าจะหายจากความทุกข์ทรมานได้ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา
ถือเป็นมหากุศล และคณะแพทย์จะรับเอาอวัยวะจากผู้บริจาคได้ก็ต่อเมื่อผู้บริจาคเสียชีวิตแล้วจากภาวะสมองตายเท่านั้น
เมื่อแพทย์ทำการผ่าตัดนำเอาอวัยวะไปปลูกถ่ายแล้ว จะตกแต่งร่างของของผู้เสียชีวิตให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย แล้วส่งคืนให้ญาติไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
ขณะที่ นางบุษบากร อัครเศรษฐัง อายุ 50 ปี ลูกสาว กล่าวว่า คุณแม่บุญส่ง ล้มป่วยฉับพลันด้วยโรคหัวใจตีบ ส่งต้องเร่งนำส่งโรงพยาบาล แต่อาการไม่ดีขึ้น ซึ่งทางครอบครัวต้องทำใจเพราะต้องเป็นไปตามวาระของมนุษย์ที่หนีไม่พ้นอยู่แล้ว จึงขอทำความดี ทำบุญกุศล เพื่อคุณแม่บุญส่งเป็นครั้งสุดท้ายโดยการบริจาคดวงตา เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
“ส่วนความเชื่อที่บอกว่าหากบริจาคดวงตาแล้วชาติหน้าเกิดมาจะไม่มีดวงตานั้น ทางครอบครัวไม่เชื่อ เพราะทางพระพุทธศาสนาสอนไว้ว่าหากบริจาคอวัยวะยิ่งถือเป็นมหากุศล และเมื่อเกิดมาตัวเปล่าก็ต้องกลับไปตัวเปล่า” นางบุษบากร กล่าว