รัฐบาลในหลายๆ ประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ ประเทศในแถบยุโรป และ ประเทศอเมริกา ได้ออกกฎที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยกำหนดว่ายาปฏิชีวนะสามารถสั่งจ่ายได้ โดยการได้รับอนุญาตจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกประเทศทำตามกฎนี้
จากการศึกษาของสมาคมแพทย์แห่งประเทศไทยในปี ค.ศ. 2016 ได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร โดยระบุว่า ร้านขายยาในประเทศไทยมีการจำหน่ายยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสมและแพร่หลาย ผลการวิจัยชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นสาเหตุทำให้คนเกิดการดื้อยาขึ้น เพราะเมื่อเกิดอาการติดเชื้อแบคทีเรีย และต้องการให้อาการบรรเทาลงโดยการใช้ยาแก้อักเสบ หรือยาปฏิชีวนะ จึงไม่สามารถทำให้หายได้ เพราะสาเหตุมาจากการดื้อยาปฏิชีวนะนั่นเอง เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในหลายต่อหลายประเทศที่ไม่มีการควบคุมการจ่ายยาโดยผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่นิยมใช้วิธีไปหาซื้อยาทานเองเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย
องค์การอนามัยโลก (WHO) ตระหนักถึงอันตรายที่ร้ายแรงจากการใช้ยาปฏิชีวนะที่ผิดๆนี้ และเน้นย้ำว่า หากมีการจำหน่ายยาปฏิชีวนะ และสามารถหาซื้อได้โดยทั่วไปในร้านขายยาต่างๆ จะเกิดผลเสียมากมายที่ตามมา อีกทั้งมีการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่อประชาชนมากมายเกิดขึ้น โดยแม้แต่ในอาการติดเชื้ออย่างธรรมดาในขั้นไม่รุนแรงยาปฏิชีวนะก็ไม่สามารถจะช่วยได้ เมื่อมีการจำหน่ายยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสมรัดกุมจะทำให้มีการดื้อยาเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้น
อะไรเป็นสาเหตุของการดื้อยาปฏิชีวนะ
- เกิดจากการเข้าใจผิดในการทานยาปฏิชีวนะ ทำให้เชื้อแบคทีเรียมีการพัฒนาและปรับตัวในการดื้อยา ทำให้การทานยาปฏิชีวนะไม่ได้ผลอีกต่อไป
- การใช้ยาอย่างผิดๆ และใช้มากเกินไปเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดการดื้อยา และก่อให้เชื้อโรควายร้ายที่ตามมา (คือ ความเจ็บป่วยที่ไม่สามารถจะเยียวยาได้ เพราะการให้ยาบรรเทาอาการนั้นไม่สามารถจะช่วยได้ต่อไปจนทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต)
เชื้อโรควายร้ายที่กล่าวถึงนี้ คือ เชื้อแบคทีเรียซึ่งไม่สามารถใช้ยาปฏิชีวนะเข้าบำบัดได้ เนื่องจากเชื้อโรคทำการป้องกันตัวเอง ซึ่งเกิดจากการทานยาไม่ครบตามกำหนดหรือใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง อธิบายง่ายๆ คือ เมื่อรับประทานยาปฏิชีวนะไปสักพัก อาการจะรู้สึกดีขึ้น และเมื่อหยุดยาโดยทานยาไม่ครบตามกำหนดเชื้อโรคตัวร้ายที่อยู่ในร่างกายจะพัฒนาตัวเองเป็นเชื้อโรควายร้ายที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมซึ่งยากต่อการเยียวยา ก็เพราะสาเหตุมาจากการดื้อยานั่นเอง
เมื่อเชื้อโรควายร้ายนี้เกิดการป้องกันตัวเองทำให้เกิดเชื้อวัณโรคและเชื้อปอดบวมสายพันธุ์ใหม่ขึ้น ซึ่งยาปฏิชีวนะที่ผลิตขึ้นไม่สามารถทำให้อาการทุเลาบรรเทาลงได้โดยง่ายดาย องค์การอนามัยโลก (WHO) ตระหนักว่าการดื้อยาปฏิชีวนะนี้เป็นปัญหาใหญ่ต่อความปลอดภัยของสุขภาพของคนในโลกปัจจุบัน
ยาปฏิชีวนะช่วยบรรเทาอาการอะไร?
ยาปฏิชีวนะช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยซึ่งเกิดจากเชื้อโรค เช่น การติดเชื้อต่อมทอลซินซึ่งเกิดจากแบคทีเรีย การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ไอกรน การติดเชื้อทางผิวหนังซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ยาอมอกซินลิน Amoxicillin เป็นส่วนหนึ่งของยาเพนนิซิลิน ซึ่งช่วยรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในหูในขณะที่Trimethoprim เป็นยาปฏิชีวนะที่ช่วยในการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่เป็นสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ดังนั้น ยาปฏิชีวนะประเภทเดียวกันไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียทุกโรคได้ ยกตัวอย่างเช่น Salmonella แซลมอนเนลา คือ โรคติดเชื้อจากระบบทางเดินอาหาร อาหารเป็นพิษคุณหมอจะต้องหายาที่เหมาะสมกับอาการดังกล่าว ดังนั้น ยาปฏิชีวนะตัวเดียวไม่สามารถใช้กับทุกโรคได้ ดังนั้น เราควรระวังอย่าใช้ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อและผิดโรค
จะทำอย่างไรเมื่อเราจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
ถึงแม้ว่าเราจะแน่ใจว่าเราเป็นโรคที่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะอย่างแน่นอน และอยากจะลองไปซื้อยาทานเองที่ร้านขายยา นั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะยาบางชนิดจะมีผลส่งผลต่อยาอีกหลายอย่างที่เรารับประทานอยู่อย่างต่อเนื่อง และทำลายอวัยวะอย่างอื่นของร่างกายโดยเรารู้เท่าไม่ถึงการณ์
ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก คือ เมื่อมีอาการป่วยควรไปพบแพทย์ และให้แพทย์เป็นผู้สั่งยาให้ เพราะแพทย์จะพิจารณาอย่างรอบคอบ และรู้ว่าอาการอย่างใดจะใช้ยาปฏิชีวนะตัวไหนที่จะไม่ไปทำอันตรายต่ออวัยวะส่วนอื่น ซึ่งส่งผลร้ายต่อร่างกาย นายแพทย์ท่านหนึ่งยังกล่าวเตือนอีกว่าโรคที่กินยาอย่างผิดๆ จะทำให้อาการของโรคเป็นมากขึ้นจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
แล้วเราจะใช้ยาปฏิชีวนะอย่างถูกต้องได้อย่างไร?
ขั้นตอนแรกคือ จากคำวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถทำให้เราทราบว่าเราสามารถใช้ยาปฏิชีวนะตัวไหนอย่างไรได้อย่างถูกต้อง ขั้นตอนต่อมาคือ ทานยาตามที่แพทย์กำหนดอย่างต่อเนื่องจนครบตามที่แพทย์สั่ง ไม่ใช่ว่าเมื่อรู้สึกว่าอาการดีขึ้นแล้วก็หยุดยา เราต้องทำตามคำสั่งของแพทย์อย่างชัดเจน เช่น ทานยาก่อนอาหาร หรือหลังรับประทานอาหารไม่ควรทานยานี้ร่วมกับอาหารชนิดใดบ้างและควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้โรคร้ายนั้นหายไปจากเรา อีกทั้งเราไม่ควรแบ่งยาปฏิชีวนะที่เรามีให้กับผู้อื่นทาน เป็นต้น
อันตรายจากการใช้ยาผิดๆ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะนั้น มีโทษมหันต์ อย่าทำตัวเป็นผู้วินิจฉัยโรค หรือให้เจ้าของร้านขายยาเป็นผู้ตัดสินโดยที่ไม่ไปพบแพทย์ เพราะจะส่งผลร้ายต่อตัวเราเองและคนรอบข้างได้ ควรระวังปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด และมีสติรอบคอบ ชีวิตของเรามีค่ามาก ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
http://globalwellbeing.william-russell.com/health-tips/antibiotics-resistance-what-you-need-to-know/