รมว.สธ. เผย มท. คอนเฟิร์มตัวเลข “คนจีนโพ้นทะเล - อากง - อาม่า” ชัดเจนแล้ว 3.8 หมื่นคน ช่วยได้รับสิทธิบัตรทองคืน พร้อมประสาน ศธ. ฟันธงตัวเลขนักเรียนกลุ่มจี ลดตัวเลขซ้ำซ้อนเด็กไร้สถานะ ก่อนดันเข้ากองทุนคืนสิทธิ
จากกรณีเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย ออกมาทวงถามกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถึงการจัดทำตัวเลขที่ชัดเจนของกลุ่มคนจีนโพ้นทะเล ที่เคยได้รับสิทธิบัตรทองแต่ถูกถอดสิทธิปี 2556 เพราะไม่มีเลขประจำตัวประชาชน และกลุ่มนักเรียนที่ได้รับสิทธิการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หรือ นักเรียนกลุ่ม G ที่ไม่ได้สิทธิรักษาพยาบาล รวมกว่า 1 แสนคน ซึ่งตกค้างจากการผลักดันให้เข้าสู่กองทุนคืนสิทธิสุขภาพ
วันนี้ (19 ธ.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมหารือเรื่องดังกล่าวกับที่ปรึกษา รมว.สธ. พร้อมด้วย พญ.ประนอม คำเที่ยง รองปลัด สธ. ในฐานะผู้ดูแลเรื่องนี้ นพ.อภิชาติ รอดสม สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 6 ในฐานะผู้ประสานข้อมูลบุคคลไร้สถานะและสิทธิ และกลุ่มงานประกันสุขภาพ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) ว่า บุคคลทั้งสองกลุ่มเคยเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการผลักดันให้เข้าสู่กองทุนให้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขสำหรับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ (กองทุนคืนสิทธิ) แต่ติดปัญหาเรื่องตัวเลขยังไม่ชัดเจน โดย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ไปดำเนินการเรื่องจำนวนบุคคลให้ชัดเจน ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า กลุ่มนักเรียนที่ได้สิทธิเรียนหนังสือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือ นักเรียนกลุ่มจี ต้องทำตัวเลขให้ชัด เพราะอาจมีความซ้ำซ้อนกับกลุ่มเด็กไร้สถานะที่เคยได้รับสิทธิไปแล้วในอดีต ทั้งนี้ เพื่อความชัดเจนจะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 20 ธ.ค. สำหรับกลุ่มคนดั้งเดิมที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร หรือคนจีนโพ้นทะเล อากง อาม่า จากการหารือกับกระทรวงมหาดไทย ได้รับคำตอบวันที่ 19 ธ.ค. ว่า ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 38,267 คน ขึ้นทะเบียนแล้ว และได้รับสิทธิสถานพยาบาลไปโดยปริยาย ซึ่งจะมีการนำเสนอต่อ ครม. สัปดาห์หน้า
“ปัญหาของกลุ่มคนไร้สถานะและสิทธินั้น อยู่ที่ตัวเลข ซึ่งต้องทำข้อมูลให้ชัด เพราะหากตัวเลขซ้ำซ้อน ก็ต้องมาลงงบประมาณโดยเปล่าๆ” รมว.สธ. กล่าว