xs
xsm
sm
md
lg

เปิดเว็บไซต์ “พลังแผ่นดิน” สานต่อจิตอาสาทำดีเพื่อ “พ่อ” ให้ยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต คือ เกิดการรวมตัวของคนจำนวนหนึ่งที่ต่างพร้อมใจกันออกมาทำความดี เพื่อถวายแด่องค์พ่อหลวงของเรา ไม่ว่าจะเป็นการนำอาหาร น้ำดื่ม ยาดม มาให้แก่ประชาชนที่เข้ามาเข้าคิวรอถวายบังคมพระบรมศพ หรือแม้แต่การนำชุดดำ รองเท้าสีดำ มาให้เช่าฟรีเพื่อเปลี่ยนชุดให้มีความเหมาะสม พร้อมเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง หรือแม้แต่บริการรถรับส่งฟรี

ขณะนี้เรียกได้ว่าใครสามารถทำความดีอะไรเพื่อคนอื่นได้ ก็ล้วนมีความปรารถนาที่จะออกมาทำ เพื่อเดินตามรอยเท้า “พ่อ” ที่พระองค์ทรงทำเพื่อคนไทยมาตลอด 70 ปี อย่างที่ทรงไม่รู้จักย่อท้อ

ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับธนาคารจิตอาสา เปิดเว็บไซต์ “พลังแผ่นดิน” www.palangpandin.com เพื่อเป็นพื้นที่กลางในการสานพลังของจิตอาสาทั่วประเทศไทยในการทำความดีเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้มีความยั่งยืน

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า ภายหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เราเห็นปรากฏการณ์ความเศร้าอาลัยต่อการสวรรคตของพระองค์ แต่ต่อมาก็มีการแปรเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นพลัง ด้วยการออกมาทำความดี มาเป็นจิตอาสาต่างๆ เพื่อทำตามพระราชปณิธาน พระราชดำรัส และพระราชกรณียกิจของพระองค์ ทั้งเรื่องของการทำริบบิ้นสีดำแจก การย้อมเสื้อดำฟรี การนำอาหารและน้ำมาแจกให้ประชาชน การรับส่งคนที่มาถวายบังคมพระบรมศพ เป็นต้น ซึ่ง สสส. อยากเห็นภาพของการทำความดี การเป็นจิตอาสานั้นมีความยั่งยืน เพราะที่ผ่านมาจะพบว่าคนไทยมีการออกมาทำความดี มีการเป็นจิตอาสามานานแล้ว เพียงแต่ออกมาทำชั่วครั้งชั่วคราว หรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น แต่ความต่อเนื่องเชื่อมโยงให้มีการทำไปตลอดนั้นยังไม่มี จึงได้ร่วมมือกับธนาคารจิตอาสา จัดทำเว็บไซต์ขึ้นโดยเฉพาะ ชื่อว่า “พลังแผ่นดิน” www.palangpandin.com เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนกลางในการแสดงออกของคนทำความดีถวายพ่อหลวง มาแชร์ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ผ่านการปักหมุดบนแผนที่ประเทศไทยว่าพื้นที่ตรงนี้เราทำความดีอะไรเพื่อประเทศ เพื่อพ่อหลวงของเราบ้าง

“ในเว็บไซต์ดังกล่าวจะมีแผนที่ประเทศไทย หรือเรียกว่าแผนที่พลังแผ่นดิน ให้ผู้ที่ได้ทำความดีได้เข้ามาเขียนถึงกิจกรรมทำดีของตนเอง พร้อมบอกตำแหน่งสถานที่ ซึ่งจะเกิดการปักหมุดสีทองขึ้นบนแผนที่ดังกล่าวว่าใครได้เข้ามาทำความดีอะไรไว้ในสถานที่ใด ซึ่งสามารถแชร์ไปยังเฟซบุ๊กได้ หรือหากโพสต์เรื่องราวการทำความดีผ่านทวิตเตอร์หรืออินสตาแกรม แล้วติดแฮชแท็กในโพสต์นั้นว่า #จิตอาสาพลังแผ่นดิน หรือ #palangpandin และปักหมุดสถานที่ด้วย เว็บไซต์ก็จะสามารถรวบรวมกิจกรรมดีๆ เหล่านั้นให้มาปรากฏและปักหมุดบนแผนที่ดังกล่าวได้เช่นกัน” ผู้จัดการ สสส. กล่าว

นอกจากส่วนของแผนที่พลังแผ่นดินแล้ว ในเว็บไซต์พลังแผ่นดิน ยังเตรียมเปิดฟังก์ชันเพิ่มเติมอีก 2 ส่วนภายในเดือน ธ.ค. นี้ด้วย โดย ดร.สรยุทธ รัตนพจนารถ หรืออาจารย์เอเชีย ผู้อำนวยการร่วมธนาคารจิตอาสา ระบุว่า ฟังก์ชันที่จะเพิ่มเติมเข้ามาในเว็บไซต์ คือ ส่วนของปฏิทินความดี คล้ายๆ กับการจองกฐิน ที่ให้ทุกคน ทุกองค์กร เข้ามาระบุกิจกรรมทำความดีที่จะทำลงในปฏิทินได้ว่า จะไปทำที่ไหน วันไหน เวลาใด ซึ่งอาจจะเลือกจากวันสำคัญของตัวเอง เช่น วันเกิด วันก่อตั้งองค์กร เป็นต้น ยกตัวอย่างวันที่...จะไปรวมไปตัวร้องเพลงให้เด็กฟัง คนที่สนใจก็สามารถมารวมตัวเพื่อร่วมกันทำกิจกรรมได้ ถือเป็นการทำความดีต่อเนื่องระยะยาว 365 วันใน 1 ปี ส่วนอีกหนึ่งฟังก์ชัน คือ การจับคู่ทำความดี โดยจะเป็นพื้นที่แสดงข้อมูลว่าพื้นที่แห่งใดต้องการกิจกรรมหรือความช่วยเหลือใด เช่น โรงเรียนชายแดนขาดแบบเรียน หรือสถานสงเคราะห์ที่จะจัดกิจกรรมยังขาดผ้าอ้อมสำหรับเด็กอ่อน ผู้ที่สนใจทำดี หรือจิตอาสาก็จะรับทราบ และระดมทรัพยากรและความช่วยเหลือได้ตรงตามความต้องการของพื้นที่ นอกจากนี้ หากใครที่ต้องการทำงานจิตอาสา ก็สามารถเข้าไปฝากเวลาว่างที่เรามีกับเว็บไซต์ธนาคารจิตอาสาได้ พร้อมระบุถึงความสามารถ ความสนใจที่เรามี ซึ่งทางธนาคารจิตอาสาจะช่วยจัดหากิจกรรมที่เหมาะสมกับศักยภาพที่พึงมีให้ได้ทำความดีอย่างต่อเนื่อง

“สำหรับแนวคิดการทำเว็บไซต์จิตอาสาพลังแผ่นดินนั่น พลังแผ่นดิน คือ ความหมายของพระนาม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน อีกนัยหนึ่งพลังแผ่นดินยังเกิดได้จาก พลังของพลเมืองในสังคมที่ร่วมกันทำสิ่งดีๆ ให้แก่แผ่นดินไทย สำหรับข้อกังวลเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำความดีแล้วมาบอกให้คนในสังคมออนไลน์รับรู้ เป็นการทำความดีเอาหน้า หวังได้ยอดไลก์นั้น อยากให้มองว่า การแบ่งปันความทุกข์จะช่วยลดความทุกข์ลงไปครึ่งหนึ่ง และหากแบ่งปันความดีและความสุข ก็จะไดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และยังเป็นการสร้างโอกาสและเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่รับทราบกิจกรรมดีๆ เกิดความรู้สึกอยากทำต่อบ้าง ซึ่งทุกวันนี้ในสื่อมักมีแต่ข่าวร้าย ซึ่งจริงๆ แล้วสังคมยังต้องการข่าวดีๆ อีกมาก” อาจารย์เอเชีย กล่าว

เช่นเดียวกับ ดร.สุปรีดา ที่มองว่า ต่อให้ทำความดีเพื่อหวังผลบางอย่าง แต่หากทำแล้วเกิดความสุข เกิดความรู้สึกที่ดีจนอยากทำอีก ตรงนี้ถือเป้นความงอกงามที่เกิดขึ้นในใจของเขา ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่าโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหนึ่งในการแสดงออกของวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่อยากได้รับการยอมรับ แม้การปิดทองหลังพระจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การทำความดีแล้วบอกต่อก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แต่อาจเป็นแรงกระตุ้นให้คนในสังคมเกิดการทำความดีเพิ่มขึ้นตามมาได้ด้วย

“สำหรับกิจกรรมที่ สสส. จะสานงานตามรอยพ่อหลวงต่อนั้น มีทั้งโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชัน คนหัวใจหินงดเหล้าครบพรรษาถวายอาลัยพ่อของแผ่นดิน อ่านสร้างสุขยกกำลังสุขในสถานศึกษาและชุมชน ลานกีฬาพัฒน์พื้นทาสุขภาวะคนเมือง แบะในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็จะเน้นในเรื่องของการจัดกิจกรรมอาสาให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการเชื่อมโยงให้เกิดความต่อเนื่องในการทำความดี” ดร.สุปรีดา กล่าว

ขณะนี้กระแสการทำความดี การเป็นจิตอาสายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากทุกคนอยากเห็นการทำความดีนี้ยืนยงต่อไป เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของ “พ่อหลวง” เมื่อทำกิจกรรมดีๆ แล้ว อย่าลืมที่จะแชร์เรื่องราวดีๆ เหล่านั้นบนเว็บไซต์พลังแผ่นดิน หรือติดแฮชแท็กไว้ว่า #จิตอาสาพลังแผ่นดิน หรือ #palangpandin เท่านี้ทุกคนก็จะร่วมเป้นส่วนหนึ่งในการสานงานจิตอาสาให้เกิดขึ้นทั่วประเทศไทยและมีความยั่งยืนต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น