xs
xsm
sm
md
lg

5 วิธีสร้างความตื่นตัวขณะขับรถเข้า กทม.มาสักการะพระบรมศพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมควบคุมโรค แนะ 5 วิธีสร้างความตื่นตัวขณะขับรถเดิน หวังสร้างความปลอดภัยขณะเดินทางไกลเข้ามาสักการะพระบรมศพ พร้อมเผย 6 คำแนะนำการขับรถขณะฝนตก

วันนี้ (31 ต.ค.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ในช่วงนี้มีประชาชนเดินทางมาร่วมพิธีถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวนมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถเหมามาเป็นหมู่คณะ และรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ให้ความรู้ แจกแผ่นพับ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และคำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนในการป้องกันควบคุมโรคตามสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก โดยเฉพาะจุดปล่อยรถโดยสาร ซึ่งทำให้ในระยะนี้มีการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก ประกอบกับยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ยิ่งเป็นการขับระยะไกลด้วย ผู้ขับขี่จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชนเตรียมพร้อมก่อนการเดินทางไกล ดังนี้ 1. เตรียมคนขับ โดยพักผ่อนให้เพียงพอ ควรมีการแวะพักเพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถเป็นระยะ เพื่อป้องกันอาการง่วงนอน และต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หรือทานยาที่ทำให้ง่วง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ เป็นต้น 2. เตรียมสภาพรถ โดยการตรวจเช็กลมยาง ไฟส่องสว่าง และไฟเลี้ยว ตรวจระบบเบรกให้มีความสมบูรณ์ และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ตรวจสอบน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่ เติมน้ำมันเครื่องให้พร้อม และควรมีเครื่องมือประจำรถและอะไหล่ต่าง ๆ สำรองติดรถเอาไว้

นพ.เจษฎา กล่าวว่า ระหว่างการขับรถทางไกล ผู้ขับควรสร้างความตื่นตัวให้กับตัวเอง 5 วิธีดังนี้ 1. เปิดหน้าต่างเป็นระยะเพื่อการถ่ายเทอากาศ 2. สวมแว่นตากันแดด หรือใช้ที่บังแดดเพื่อลดแสงจ้า หรือแสงสะท้อนที่ทำให้มองเห็นไม่ถนัดขณะขับรถในช่วงที่แสงแดดแรง 3. หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรแวะพักเป็นระยะ หรือมีคนขับสับเปลี่ยนกัน 4. ช่วงรถติดหรือติดไฟแดงสามารถลดอาการเมื่อยล้าของสายตาและกล้ามเนื้อ โดยมองไปยังต้นไม้สีเขียวหรือหลับตาพักสายตาสักครู่ และนวดบริเวณต้นคอและบ่า 2 ข้าง และ 5. ควรหยุดพักบ่อย ๆ จิบน้ำ หรือหาเครื่องดื่มมาช่วยเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นเพื่อให้ตื่นตัวตลอดเวลา

ส่วนคำแนะนำในการขับขี่ช่วงฝนตก คือ 1) เปิดไฟหน้ารถเสมอ โดยเปิดไฟต่ำ 2) เปิดใบปัดน้ำฝน โดยปรับความเร็วใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณฝนตก 3) ลดความเร็ว เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น 4) ให้ทิ้งระยะห่างจากคันหน้า เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น 5) หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ ความเร็ว และระยะห่างของรถทั้งในช่องซ้ายและขวาให้ดีก่อน และ 6) รถลื่นไถล หรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะรถอาจพลิกคว่ำได้ ให้แก้ไขโดยลดความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ

“ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ที่สำคัญ หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทร.แจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร. 1669 ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ จะเกิดความปลอดภัยกับผู้บาดเจ็บมากขึ้น หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” นพ.เจษฎา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น