กรมการจัดหางาน เร่งรัดการนำเข้าแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายตามระบบ MOU พร้อมอำนวยความสะดวกการตรวจสัญชาติ
นายสิงหเดช ชูอำนาจ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเกี่ยวกับมาตรการหลังสิ้นสุดการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และ พม่านั้น กกจ. ได้เร่งรัดการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายตามบันทึกความตกลง หรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ (MOU) พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกการตรวจสัญชาติ โดยกัมพูชาจะเข้ามาดำเนินการแจกหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือเอกสารรับรองบุคคลให้กับแรงงานของตนที่ได้รับการตรวจสัญชาติไว้แล้ว ซึ่งจุดแจกหนังสือเดินทางฯ อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ขณะที่พม่าจะตั้งศูนย์บริการตรวจสัญชาติให้กับแรงงานที่ จดทะเบียนบัตรแรงงาน 3 สัญชาติ (บัตรสีชมพู) ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 29 กรกฎาคม 2559 ในจังหวัดตาก ระนอง สมุทรสาคร สมุทรปราการ และ เชียงราย ส่วนลาวอยู่ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ แรงงานที่ผ่านการตรวจสัญชาติหรือเคยผ่านการตรวจสัญชาติ ซึ่งได้รับหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือเอกสารรับรองบุคคล จะได้รับการตรวจลงตรา (VISA) และประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 และสามารถขออยู่ต่อและขออนุญาตทำงานได้อีกครั้งเดียวไม่เกิน 2 ปี
นอกจากนี้ กรมการจัดหางานยังเร่งดำเนินการตามภารกิจของศูนย์แรกรับเข้าทำงาน และสิ้นสุดการจ้าง เพื่อเป็นศูนย์อำนวยความสะดวก และให้ความรู้แก่แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามระบบ MOU ตรวจสอบและพิจารณารับสิทธิที่พึงได้รับของแรงงานเมื่อจะเดินทางกลับประเทศ และเป็นศูนย์พักรอแรงงานเดินทางกลับประเทศต้นทางเมื่อครบสัญญาจ้าง ซึ่งจะช่วยไม่ให้แรงงานตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยนำร่องใน 3 จังหวัด คือ ตาก สระแก้ว และหนองคาย ซึ่งจากการดำเนินงานได้อบรมแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และ เมียนมา ไปแล้ว จำนวนกว่า 15,000 คน และยังได้เร่งจัดตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
นายสิงหเดช ชูอำนาจ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเกี่ยวกับมาตรการหลังสิ้นสุดการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และ พม่านั้น กกจ. ได้เร่งรัดการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายตามบันทึกความตกลง หรือบันทึกความเข้าใจที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ (MOU) พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกการตรวจสัญชาติ โดยกัมพูชาจะเข้ามาดำเนินการแจกหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือเอกสารรับรองบุคคลให้กับแรงงานของตนที่ได้รับการตรวจสัญชาติไว้แล้ว ซึ่งจุดแจกหนังสือเดินทางฯ อยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ขณะที่พม่าจะตั้งศูนย์บริการตรวจสัญชาติให้กับแรงงานที่ จดทะเบียนบัตรแรงงาน 3 สัญชาติ (บัตรสีชมพู) ระหว่างวันที่ 1 เมษายน - 29 กรกฎาคม 2559 ในจังหวัดตาก ระนอง สมุทรสาคร สมุทรปราการ และ เชียงราย ส่วนลาวอยู่ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ แรงงานที่ผ่านการตรวจสัญชาติหรือเคยผ่านการตรวจสัญชาติ ซึ่งได้รับหนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง หรือเอกสารรับรองบุคคล จะได้รับการตรวจลงตรา (VISA) และประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 และสามารถขออยู่ต่อและขออนุญาตทำงานได้อีกครั้งเดียวไม่เกิน 2 ปี
นอกจากนี้ กรมการจัดหางานยังเร่งดำเนินการตามภารกิจของศูนย์แรกรับเข้าทำงาน และสิ้นสุดการจ้าง เพื่อเป็นศูนย์อำนวยความสะดวก และให้ความรู้แก่แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามระบบ MOU ตรวจสอบและพิจารณารับสิทธิที่พึงได้รับของแรงงานเมื่อจะเดินทางกลับประเทศ และเป็นศูนย์พักรอแรงงานเดินทางกลับประเทศต้นทางเมื่อครบสัญญาจ้าง ซึ่งจะช่วยไม่ให้แรงงานตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยนำร่องใน 3 จังหวัด คือ ตาก สระแก้ว และหนองคาย ซึ่งจากการดำเนินงานได้อบรมแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และ เมียนมา ไปแล้ว จำนวนกว่า 15,000 คน และยังได้เร่งจัดตั้งศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
