วธ.- 5 ศาสนา - ศิลปินแห่งชาติ - ศิลปินพื้นบ้าน - เครือข่ายศิลปวัฒนธรรม กว่า 15,000 คน จัดงานรวมใจเครือข่ายศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม แปลอักษร “๙ ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” ร้องเพลงสรรเสริญพระบารีและพ่อของแผ่นดิน เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.๙
วันนี้ (26 ต.ค.) ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จ.ปทุมธานี กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับผู้นำศาสนา เครือข่ายศิลปิน ร่วมจัดพิธีรวมใจเครือข่ายศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีคุณูปการด้านศาสนาและศิลปวัฒนธรรมในฐานะองค์อัครศิลปิน และพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย ซึ่งมีผู้นำศาสนา 5 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พรหมณ์ - ฮินดู และซิกข์ ศิลปินจากสาขาต่าง ๆ รวมถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 15,000 คน
โดยพิธีเริ่มจากการประกอบพิธีถวายเป็นพระราชกุศลของแต่ละศาสนา จากนั้นนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ อ่านบทกวีสดุดี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินชื่อดัง เป่าขลุ่ยบรรเลงประกอบการสดุดี จากนั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี อ่านคำรำลึก พร้อมนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงพ่อแห่งแผ่นดิน และร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์แปรอักษรแสดงสัญลักษณ์ “๙ ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์”
นายประสาน ศรีเจริญ ผู้แทนจุฬาราชมนตรี กล่าวแสดงความอาลัย ว่า ศาสนาอิสลามได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากในหลวง ร.๙ อย่างมาก โดยเฉพาะที่พระองค์ทรงมีดำริให้สร้างมัสยิดกลาง 4 จังหวัดภาคใต้ และเสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดมัสยิดทั้ง 4 ด้วย ในโอกาสนี้ชาวไทยผู้นับถืออิสลามขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ศาสนาจารย์ ดร.ประสาทพงษ์ ปั้นสวย ศิษยาภิบาลคริสตจักรที่ 2 สามย่าน สังกัดสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในนามของศาสนาคริสต์พระเจ้าได้ประธานพรให้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยทศพิธราชธรรม ทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภกแก่ทุกศาสนา ในโอกาสนี้ขอขอบคุณพระเจ้าและแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งแด่พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของชาวไทยได้เสด็จสวรรคต ขอพระเจ้าทรงเมตตารับเอาดวงวิญญาณของพระองค์เข้าสู่ที่ประทับของพระองค์บนสรวงสวรรค์ด้วย
มงซินญอร์ ดร.วิษณุ ธัญญอนันต์ รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอพระเจ้าประธานกำลังใจแด่พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ รวมถึงพสกนิกรทุกคนที่โศกเศร้า เพราะอาลัยถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง ซึ่งวันที่ 1 ธ.ค. นี้ ชาวคริสต์จะรวมตัวกันครั้งใหญ่เพื่อประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาถวายแด่พระองค์ท่าน
นายลาลิท โมฮัน วยาส ผู้แทนศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู คณะพราหมณ์ประกอบพิธีสวดมนต์ กล่าวว่า ทรงรับทราบทุกข์สุขของประชาชน ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนา ทรงมีคุณูปการยิ่งใหญ่ที่เป็นประโยชน์แก่พสกนิกรและผู้มาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ดังนั้น ขอองค์พระเป็นเจ้าโปรดจงรับดวงวิญญาณของพระองค์ด้วยเทอญ
ด้าน นายเนาวรัตน์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระนามของพระองค์มีความหมายว่า พลังแผ่นดิน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของประชาชน ทรงมีพระอัจฉริยภาพ ทั้งด้านการเกษตร พระองค์ทรงพลิกฟื้นผืนแผ่นดินไทยจากแห้งแล้งให้อุดมสมบูรณ์.ด้านวิทยาศาสตร์ พระองค์ทรงบันดาลฝนหลวงตกจากฟ้าสู่แผ่นดิน ด้านศิลปวัฒนธรรมทรงมีความเชี่ยวชาญหลายสาขา ทั้งจิตรกรรรม ดนตรี บทเพลงพระราชนิพนธ์มากมาย รวมถึงพระราชนิพนธ์หนังสือ และศิลปะ ภาพถ่าย รวมทั้งพระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานสร้างความสุขให้ประชาชน อย่างประเทศภูฏานได้นำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ขณะนี้พลังความอาลัยของประชาชนเราควรนำมาประมวลจัดกิจกรรมทำดีสานต่อพระราชดำริของพระองค์ เพื่อสร้างพลังแผ่นดิน ส่วนตัวตั้งใจจะทำดีเช่นกัน
“ในขณะนี้จะเห็นกิจกรรม หรือบทเพลงน้อมรำลึกจำนวนมาก สิ่งที่ผมอยากเห็นการบรรเลงดนตรีไทยร่วมแสดงความอาลัย เพื่อเป็นการถวายพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย อย่างไรก็ตาม ในช่วงการสร้างพระเมรุมาศ ตนมีแนวคิดรวมพลังรวมใจศิลปินทุกสาขาเพื่อจัดสร้างประติมากรรม มีเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง อยากติดตั้งตลอดถนนราชดำเนินตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าถึงโรงแรมรัตนโกสินทร์ ให้เป็นถนนสายศิลปะเพื่อพ่อ” นายเนาวรัตน์ กล่าว
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างดี ทุกคนมีหัวใจดวงเดียวกัน เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณถวายแด่พระองค์ ทั้งนี้ จะมีการจัดงานในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องหมุนเวียนไปในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เหมาะสม ทั้งนี้ การสวดถวายพระพรของ 5 ศาสนาให้พระองค์ขึ้นไปสู่บนสรวงสวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสิ่งที่ดี แม้จะไม่ได้เข้าใจบางบทสวดแต่จากน้ำเสียง และจังหวะที่สื่อสารออกมาด้วยใจทำให้เข้าใจได้ถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวของคนไทยและถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่มีจุดศูนย์รวมเดียวกัน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทั่วโลกจะได้นำไปเผยแพร่ต่อไป