xs
xsm
sm
md
lg

ไขปม “ท้องวัยรุ่น” เหตุเรียนนานขึ้น ชี้เห็นต่าง “รักนวลสงวนตัว” ไม่ผิด แนะยอมรับสอนเซ็กซ์ปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นักวิชาการไขปม “ท้องวัยรุ่น” เหตุสังคมเปลี่ยน “เรียน” นานขึ้น แต่เข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์แล้ว แถมโอกาสสานสัมพันธ์หญิงชายมากขึ้นกว่าเดิม แนะมีพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย ไม่มีเซ็กซ์ดีสุด หากมีต้องเป็นเซฟเซ็กซ์ ชี้ เห็นต่างคำสอน “รักนวลสงวนตัว” ของคนต่างรุ่นไม่ใช่เรื่องผิด อย่ายัดเยียดความคิดให้คนรุ่นอื่น เหตุเกิดและเติบโตในบริบทต่างกัน

รศ.ดร.ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา นักวิชาการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ว่า ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของคนแต่ละยุคหรือแต่ละเจเนอเรชันที่เปลี่ยนไป โดยสมัยเมื่อก่อนคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ คือ คนที่เกิดปี 2486 - 2503 การเรียนการศึกษายังน้อย คือ เรียนจบแค่ช่วงชั้นประถมศึกษา หรือระดับมัธยมศึกษา การเรียนต่อในระดับอุดมศึกษายังน้อยอยู่มาก การแต่งงานเร็ว มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย จึงเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนเจนเอ็กซ์ เกิดช่วงปี 2504 - 2524 และ เจนวาย เกิดปี 2525 - 2548 ซึ่งมีการศึกษาในระบบที่ยาวนานขึ้น คนเรียนจบปริญญาตรีมากขึ้น เรียกได้ว่า อยู่ในวัยเรียนนานขึ้น ทำให้เจอปัญหาการแต่งงาน และมีลูกช้า แต่ปัญหาคือ อยู่ในวัยเรียนนานขึ้น แต่อายุเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์แล้ว พฤติกรรมทางเพศจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่สามารถห้ามได้

รศ.ดร.ชื่นฤทัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ บริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เมื่อก่อนเรียนจบกลับบ้าน และเป็นโรงเรียนชายล้วนหญิงล้วน ก็เปลี่ยนไปเป็นโรงเรียนสหศึกษาที่เรียนรวมทั้งชายและหญิง และเลิกเรียนก็มีสถานที่ให้ไปมากยิ่งขึ้น โอกาสสานสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงก็มีมากกว่าแต่ก่อน ดังนั้น เมื่อสังคมเปลี่ยนไป บริบทเปลี่ยนไป การป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียน การแก้ปัญหาด้วยการห้ามมีเพศสัมพันธ์ไปเลยเพียงอย่างเดียวเหมือนสมัยอดีตคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่จะต้องเข้าใจและยอมรับว่าสังคมนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ต้องสอนให้เด็กรู้จักการดูแลพฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย

“พฤติกรรมทางเพศที่ปลอดภัย คือ จะต้องให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาแก่เด็ก รู้ว่าหากมีเพศสัมพันธ์แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาบ้าง หากตั้งครรภ์ หากติดโรคขึ้นมาจะทำอย่างไร ตรงนี้ต้องให้ความรู้ โดยลำดับแรกการไม่มีเพศสัมพันธ์ถือว่าดีที่สุด เพราะป้องกันปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้ มีทักษะการปฏิเสธที่จะเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ แต่หากห้ามไม่ได้ก็ต้องเป็นการมีเพศสัมพันธ์ที่พร้อม คือ รู้ว่าหากมีแล้วจะเกิดผลกระทบอะไรตามมา และจะต้องมีอย่างปลอดภัย มีการป้องกัน หรือ เซฟเซ็กซ์ และหากพลาดขึ้นมาก็ต้องมีแนวทางช่วยเหลือต่อ ซึ่งยืนยันว่า แนวทางนี้ไม่ใช่การส่งเสริมให้มีเพศสัมพันธ์ แต่สังคมเปลี่ยนไป คนเจนเอ็กซ์ เจนวายที่เติบโตมาก็มองว่าเรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติธรรมดา ต่างจากคนรุ่นก่อน ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงต้องมองความเป็นจริงในสังคม” รศ.ดร.ชื่นฤทัย กล่าว

เมื่อถามว่า แนวคิดเรื่องรักนวลสงวนตัวต่อไปจะเป็นอย่างไร  รศ.ดร.ชื่นฤทัย กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าคนรุ่นใหม่มองเรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติ แนวคิดเรื่องการไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอัวควร หรือรักนวลสงวนตัวก็เป็นการตีกรอบของคนยุคก่อน อย่างรุ่นเบบี้บูมเมอร์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ มีอิทธิพลต่อสังคมและนโยบาย ซึ่งการที่มีความคิดเรื่องเพศสัมพันธ์แตกต่างกันไม่ใช่เรื่องที่ผิด คนที่เชื่อเรื่องรักนวลสงวนตัวก็ไม่ผิด ไม่ยึดเรื่องรักนวลสงวนตัวก็ไม่ผิด แต่ต้องเข้าใจและยอมรับความคิดที่แตกต่าง เพราะคนแต่ละรุ่นเกิดและเติบโตมาในบริบทที่แตกต่างกัน จะไปยัดเยียดความคิดว่าตัวเองถูกต้องให้แก่คนรุ่นอื่นที่คิดไม่เหมือนตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดนโยบายการแก้ปัญหา ถ้ายังยึดว่า การมีเพศสัมพันธ์ยังเป็นเรื่องที่ผิด ก็จะเป็นการปิดโอกาสเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เพราะไม่กล้าไปซื้อถุงยางอนามัยที่ร้านขายา หรือขอจากโรงเรียน จากโรงพยาบาล ทั้งที่หากทำให้เป็นเรื่องที่ต้องเปิดเผย อย่างมาขอครู ครูก็จะมีส่วนช่วยในการอธิบายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้ ซึ่งปัจจุบันแนวทางแก้ปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อมก็มาถูกทางแล้ว คือ ให้ความรู้ในการป้องกัน ไม่มีเพศสัมพันธ์ การมีอย่างมีความรับผิดชอบ มีระบบดูแลช่วยเหลือเมื่อพลาดพลั้ง และปรับความคิดที่ว่าการมีเพศสัมพันธ์และหากพลาดพลั้งมีลูกขึ้นมาไม่ใช่คนผิด คนเลวที่จะอยู่ในสังคมต่อไปไม่ได้

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดความคิดเห็น