ศูนย์ฯสายด่วน 1413 เผยคนไทยติดเหล้าแล้ว 5 ล้านคน มีเพียง 2% เข้าสู่การบำบัด ขณะที่ผลสำรวจผู้ค้าตลาดสด 22.4% ยังนิยมดื่ม เสียสุขภาพ มีปัญหาหนี้สิน พบ 13.68% เมาแล้วทำร้ายผู้อื่น
วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ตลาดสด อตก.จตุจักร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับศูนย์ศึกษาปัญหาสุรา สายด่วน 1413 จัดกิจกรรม “ตลาดสดชวนพักตับ...งดเหล้าครบพรรษา” ในงานมีการแสดงละครเร่และเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ชวนคนพักตับและกิจกรรมเปิดบูทให้คำปรึกษาผู้ที่อยากเลิกเหล้า
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 10 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ ตลาดหทัยมิตร มีนบุรี อ.ต.ก. รังสิต พิบูลย์วิทย์ อ่อนนุช นัมเบอร์วัน ใหม่ทุ่งครุ วัฒนานันท์ และ บางขุนศรี ซึ่งเป็นการนำร่องและเตรียมขยายไปยังตลาดอื่น ๆ เพื่อให้เกิดกระแสเชิญชวนพ่อค้าแม้ค้าและประชาชนทั่วไปเกิดความภูมิใจงดเหล้าครบพรรษา และตั้งใจงดต่อเนื่องหลังออกพรรษา ที่สำคัญ ผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดละเลิก เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ได้รับคำปรึกษาเกิดแนวทาง วิธีการเลิกดื่มสุรา
ทั้งนี้ จากผลสำรวจ “พฤติกรรมการดื่ม การงดเหล้าเข้าพรรษาของผู้ประกอบการและผู้ซื้อในตลาด” จากกลุ่มตัวอย่าง 500 ราย ในตลาด กทม. ทั้ง 10 แห่ง พบว่า 22.4% ดื่มสุรา โดยส่วนใหญ่ 46.43% ดื่มตามโอกาสสำคัญ ๆ 31.25% ดื่มเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง นิยมดื่มกับกลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และดื่มช่วงที่มีเวลาว่าง เนื่องจากต้องการสังสรรค์ แก้เหนื่อยคลายเครียดส่วนค่าใช้จ่ายในการดื่มส่วนใหญ่อยู่ที่ 300 - 500 บาทขึ้นไปต่อสัปดาห์ ที่น่าห่วงคือ 13.68% ยอมรับว่าดื่มแล้วเคยก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น นอกจากนี้ ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือเสียสุขภาพ ทำงานไม่ได้ และมีหนี้สินตามลำดับ ทั้งนี้ 62.8% มองว่า เทศกาลเข้าพรรษาส่งผลให้งดดื่มสุราอีกทั้ง 88.2% มองว่า ผู้ที่เลิกดื่มถือเป็นผู้ที่ชนะใจตนเองและสำหรับทุกท่านไม่ว่าจะดื่มหรือไม่ดื่ม สามารถส่งกำลังใจให้ผู้ที่กำลังงดเหล้าให้ครบพรรษา ได้ที่เฟซบุ๊ก “ร้อยดวงใจสู่คนหัวใจหิน”
นายธวัชชัย กุศล รองหัวหน้าศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา1413 กล่าวว่า ในช่วงเวลาปกติแต่ละเดือนจะมีผู้โทร.มาขอคำปรึกษาในการเลิกเหล้าเฉลี่ยเดือนละ 3,000 ราย และในช่วงเข้าพรรษาจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว เฉลี่ยเดือนละ 6,000 ราย เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อายุเฉลี่ย 25 ปี ขึ้นไป จากการดำเนินงานพบว่า ญาติหรือผู้ใกล้ชิดโทรเข้ามาขอคำปรึกษา มากกว่าผู้ที่ติดสุรา ซึ่งคำถามส่วนมากคืออยากเลิกสุราจะต้องทำอย่างไร หากมีอาการหงุดหงิดควรทำอย่างไร และวิธีการเลิกดื่มสุราให้ปลอดภัยทำอย่างไร
“ขณะนี้มีผู้ติดสุราแล้ว 5 ล้านราย มีเพียง 2% เท่านั้นที่เข้าสู่กระบวนบำบัดรักษา และผู้ที่ติดสุรามีเพิ่มขึ้นกว่าปีละประมาณ 1% ทำให้ผู้ที่โทรปรึกษาเพิ่มตามไปด้วย ยิ่งกลุ่มเยาวชนที่มีอายุน้อยมีแนวโน้มการดื่มเพิ่มมากขึ้น จะยิ่งเสี่ยงที่จะติดสุราเรื้อรังในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯยินดีให้บริการ นอกจากจะให้คำปรึกษาแล้ว จะมีการติดตามเป็นระยะ สำหรับใครที่ต้องการเลิกสุราอย่างถูกวิธี หรืออยากมาเรียนรู้วิธีป้องกัน ขอให้โทร.มาได้ที่สายด่วน 1413” นายธวัชชัย กล่าว
ด้าน นางสาวชนกนาค แก้วสะเทือน อายุ 51 ปี แม่ค้าขายน้ำดื่ม ตลาดหทัยมิตร กล่าวว่า ดื่มเหล้าตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ดื่มกับเพื่อนเกือบทุกวัน ตู้เย็นที่บ้านเต็มไปด้วยเบียร์ ดื่มเรื่อยมาจนติด ถึงขนาดหมดเบียร์วันละ 1 ลัง หรือบางวันก็มากกว่านั้น กระทั่งป่วยเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม ต้องใส่นอตที่คอ และต่อมไทรอยด์เป็นพิษ แม้อาการตอนนั้นจะหนักมาก แต่ก็ยังไม่เลิกดื่ม ทรัพย์สินที่ดินกว่า 7 แสนก็ขายมาซื้อเหล้าจนหมด ตอนที่ป่วยเพื่อนฝูงหายหน้า ในที่สุดก็เริ่มคิดทบทวนถ้าไม่เลิกดื่มจะทำลายชีวิตไปกว่านี้ จนสามารถเอาชนะใจตัวเองเลิกเหล้าได้สำเร็จ
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัว ต้องกินยาและพบแพทย์ตามนัด ตั้งแต่เลิกเหล้าร่างกายเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น มีแรงทำงานเก็บเงิน ถ้าไม่ใช่เพราะติดเหล้าป่านนี้คงมีบ้านหลายหลังไปแล้ว ทุกวันนี้ยังเข้าสังคมเจอเพื่อนฝูง แต่เลือกที่จะไม่ดื่ม หันมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้แทน ซึ่งก็พยายามชวนเพื่อนในตลาดเลิกเหล้าเพื่อสุขภาพที่ดีกลับคืนมา อยากฝากว่า ชีวิตที่ผ่านมาเอาคืนไม่ได้ แต่ให้จำไว้เป็นบทเรียน เหล้าอยู่ที่ร้าน ถ้าเราไม่เดินไปหา มันไม่หาเราเด็ดขาด รถมอเตอร์ไซค์เสียยังมีอะไหล่เปลี่ยน แต่กับคนมันไม่มี ต้องตัดทิ้งอย่างเดียว” นางสาวชนกนาค กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่