xs
xsm
sm
md
lg

นาน ๆ ดื่มหนัก “ตับพัง” ไวกว่า หวนจิบเบียร์แค่ 1 กระป๋อง หลังงดเหล้าทำลายตับได้!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หมอชี้นาน ๆ ครั้งดื่มหนัก ยิ่งทำลายตับเร็ว ดื่มน้อยแต่ประจำเจอตับแข็งผ่อนส่ง ย้ำ หลังฟื้นฟูตับ 3 เดือน แม้ดื่มเบียร์ 1 กระป๋อง ก็ทำลายตับได้ เหตุกำจัดพิษได้ไม่เท่าเดิม ประกอบเจอสารพิษรอบกาย ชงบรรจุตรวจเอนไซม์ตับชุดสิทธิประโยชน์กลุ่มคนติดเหล้า ชี้คุ้มค่า เพิ่มโอกาสบำบัด

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลน่าน กล่าวถึงการตรวจค่าเอนไซม์ตับช่วยให้รู้ตัวว่าตับถูกทำลายหรือไม่ และหากงดเหล้าครบพรรษา 3 เดือน ก็สามารถช่วยฟื้นฟูตับได้ ว่า การงดดื่มเหล้าไปเลย 3 เดือนนั้น จะช่วยให้ตับที่ถูกทำลายจากพิษเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ค่อย ๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิม แม้เซลล์ที่ถูกทำลายไปจะไม่กลับคืนมา แต่ก็ช่วยให้ตับไม่ถูกทำลายไปมากกว่านี้ ดังนั้น แม้จะงดเหล้าครบพรรษา 3 เดือนแล้วก็ตาม แต่เหลือเวลาอีก 9 เดือน จึงจะครบ 1 ปี ก็แนะนำว่าให้เลิกเหล้าไปเลยจะดีกว่า เพราะเมื่อตับถูกทำลายไปแล้ว ความสามารถในการกำจัดพิษก็ย่อมลดลงเช่นกัน ดังนั้น การกลับมาดื่มอีกแม้เพียงเล็กน้อย อย่างขอจิบเบียร์แค่ 1 กระป๋อง คิดว่าคงไม่เป็นไร แต่ความจริงคือสามารถทำลายตับได้เช่นกัน

“ที่สำคัญคือ ในชีวิตประจำวันยังมีโอกาสได้รับสารพิษต่าง ๆ มากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว ดังนั้น การลดการนำสารพิษเข้าสู่ร่างกายด้วยความจงใจ อย่างการดื่มเหล้าจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อปกป้องตับให้มีใช้ได้ไปนาน ๆ จนกระทั่งสูงวัย สำหรับประเด็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น้อย ๆ เป็นประจำทุกวัน กับนาน ๆ ดื่มที แต่ดื่มทีละมาก ๆ เมาหัวราน้ำ แบบไหนน่ากลัวกว่ากัน จริง ๆ แล้วการดื่มทั้งสองแบบก็ทำลายเซลล์ตับเช่นกัน เพียงแต่การดื่มน้อย ๆ ก็จะได้รับพิษสุราน้อย แต่รับทุกวัน ส่วนการดื่มทีละมาก ๆ แม้จะดื่มแค่ครั้งเดียวก็ตาม ถือเป็นการทำลายตับอย่างมากไปในครั้งเดียว เหมือนการแบกของหนัก ๆ หากเรายกทีเดียวหลังก็อาจหักได้ แต่หากค่อย ๆ ทยอยแบ่งกันขนไปก็อาจจะปวดเมื่อบ้าง แต่ไม่ถึงกับหลังหักนั่นเอง” นพ.พงศ์เทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการตรวจเอนไซม์ตับควรบรรจุเป็นการตจรวจสุขภาพทั่วไปหรือไม่  นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า หากบรรจุให้การตรวจเอนไซม์ตับเป็นการตรวจสุขภาพทั่วไป อาจยังไม่คุ้มนัก เพราะส่วนใหญ่ยังตรวจพบในผู้ชาย โดยค่าใช้จ่ายในการตรวจคือ 50 - 100 บาทต่อครั้งใน รพ.รัฐ ซึ่งใน รพ.เอกชน จะสูงกว่านี้ แต่หากภาครัฐกำหนดให้เป็นโครงการตรวจเฉพาะคนที่ติดเหล้าก็มีความคุ้มค่า เพราะช่วยให้คนติดเหล้ารู้สภาพตับของตัวเอง และเพิ่มโอกาสการเข้าสู่กระบวนการบำบัด หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดการเกิดตับแข็งในอนาคต

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น