xs
xsm
sm
md
lg

ลูกน้ำยุงลายเพิ่มขึ้น!! สธ.ขอ ปชช.ร่วมกำจัด ป้องกัน “ซิกา-ไข้เลือดออก” เฝ้าระวังหญิงท้องต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สธ. ขอ ปชช. อย่าตระหนก “ซิกา” ชี้ไม่อันตราย หายเองได้ เร่งเฝ้าระวังหญิงตั้งครรภ์ ขอความร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย หลังพบดัชนีลูกน้ำยุงลายเพิ่มขึ้นจากต้นปีที่สามารถควบคุมให้ลดลงได้

จากกรณีรองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกมาเปิดเผยพบหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสซิกาในพื้นที่สาทร แต่ขณะนี้คลอดลูกแล้วพบว่าเด็กปลอดภัย โดยคาดว่าติดเชื้อจากสามีที่มีประวัติเดินทางกลับมาจากสิงคโปร์ นอกจากนี้ จะมีการเฝ้าระวังผู้ป่วยกับผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการในบุคคลใกล้ชิดอีก 20 ราย

นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า โรคติดเชื้อซิกาพบได้ประปรายในประเทศไทย และอาเซียน การตรวจจับและวินิจฉัยโรคทำได้รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญ ซิกาไม่ใช่โรคใหม่ อาการไม่รุนแรงเหมือนโรคไข้เลือดออก สามารถหายเองได้ ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มาก่อน แต่มีผลต่อหญิงตั้งครรภ์ เพราะทำให้เด็กเกิดมาพิการแต่กำเนิด มีศีรษะเล็ก ซึ่งขณะนี้ก็มีการติดตามอยู่ สิ่งสำคัญคือต้องร่วมกันควบคุมโรคนี้โดยการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเมื่อตอนต้นปีประชาชนร่วมมืออย่างดี ดัชนีลูกน้ำยุงลายจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 10 ทำให้ไข้เลือดออกลดลง แต่ช่วงนี้ฝนตกดัชนีลูกน้ำยุงลายกลับเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ดังนั้น หากประชาชนร่วมมือกันดูแลบ้านตนเอง จะควบคุมทั้งซิกา และไข้เลือดออกได้ นอกจากนี้ ยังต้องป้องกันไม่ให้ยุงกัด จึงขอประชาชนอย่าได้ตระหนก  หากทุกคนร่วมกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านตนเอง ก็จะควบคุมโรคได้

“มาตรการที่ทุกคนทำได้และได้ผลดี คือ การร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนนี้ ซึ่งเป็นฤดูระบาดสูงสุดของโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ ตามมาตรการ 3 เก็บ  คือ “เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ” เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ ไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ให้ทำอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป รวมถึงการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด ส่วนหญิงตั้งครรภ์ควรไปฝากครรภ์ที่สถานบริการสาธารณสุข หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งแพทย์ทันที ที่ผ่านมา มีหญิงตั้งครรภ์ 30 ราย ที่เฝ้าระวัง คลอดแล้ว 6 ราย เด็กทุกรายปกติดี ที่เหลือมีการติดตามดูแลจากเจ้าหน้าที่ และสูติแพทย์” ปลัด สธ. กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
กำลังโหลดความคิดเห็น