หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จักรพงษภูวนารถ, มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ สมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนากำลังแรงงานด้านโลจิสติกส์ให้ได้ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ (ชั้น 10) อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังจากเป็นประธานในการลงนามความร่วมมือ ว่า ในการจะพัฒนาประเทศเพื่อเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และซัปพลายเชน ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศไม่แตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้อุตสาหกรรมนี้เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายที่ต้องมีการพัฒนาตามนโยบาย New Engine of Growth พร้อมกับมีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2556 - 2560) ที่มียุทธศาสตร์ในการปรับปรุงระบบการพัฒนาและจัดการกำลังคน เพื่อสนับสนุนการสร้างความเป็นมืออาชีพให้กับบุคลากรโลจิสติกส์
“โดยผลักดันให้มีการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพให้บุคลากรในสาขาโลจิสติกส์ โดยเฉพาะเร่งพัฒนามาตรฐานฝีมือแรงงาน และเส้นทางอาชีพของพนักงานระดับปฏิบัติการของสาขาโลจิสติกส์อื่น ๆ ในการจูงใจให้แรงงานไหลเข้ามาทำงานในอาชีพนี้ ในปัจจุบันมีกำลังแรงงานกว่า 2 ล้านคน แต่ตลาดก็ยังมีความต้องการแรงงานในสาขานี้อยู่เป็นจำนวนมาก” ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุ
หม่อมหลวง ปุณฑริก กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในการพัฒนาแรงงานด้านโลจิสติกส์ในการรับรองนโยบายของรัฐบาลและให้มีทักษะฝีมือก่อนป้อนสู่ตลาดแรงงาน ล่าสุด กพร. ได้ร่วมกับสมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ จำนวน 4 สาขา คือ 1. สาขานักบริหารการขนส่งสินค้าทางถนน 2. สาขาผู้ควบคุมรถยกสินค้าขนาดไม่เกิน 10 ตัน 3. สาขาผู้ควบคุมสินค้าคงคลัง และ 4. สาขาผู้ปฏิบัติการคลังสินค้า
เพื่อให้การจัดมาตรฐานแห่งชาติในสาขาเหล่านี้ประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้น จึงได้เชิญสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงด้านโลจิติกส์อย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จักรพงษภูวนารถ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในสาขาที่เกี่ยวข้องด้านโลจิสติกส์ จะมีการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการที่เป็นสมาชิกของสมาคมไทยโลจิสติกส์และการผลิตจ่ายค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงานให้แก่แรงงานที่เข้ารับการทดสอบ เพื่อให้ได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้นและเป็นธรรม และยังร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษาให้สอดคล้องกับมาตรฐานฝีมือแรงงานและความต้องการของตลาด
“ความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการแก้ไขจุดอ่อนระบบโลจิสติกส์ไทย เช่น การขาดแคลนบุคลากรมืออาชีพ การพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ การขาดโครงสร้างหลักสูตรการพัฒนาที่เป็นระบบชัดเจน และขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมให้แรงงานได้ค่าจ้างมาตรฐานฝีมือแรงงาน สร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวทิ้งท้าย