รมว.สธ. ย้ำ “หมออนามัย - จนท.สธ.” ทุกวิชาชีพกำลังสำคัญระบบสุขภาพ อย่าน้อยใจ พร้อมหารือค่าตอบแทนหลังลงประชามติร่าง รธน. เร่งดันแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวช่วยดูแลสุขภาพปฐมภูมิเขตเมือง เสริมศักยภาพ รพ.สต.
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดการประชุมวิชาการการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2559 จัดโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ว่า ระบบสุขภาพจะต้องดูแลประชาชนทุกครัวเรือนและทั้งประเทศ ซึ่ง สธ. ก็มีระบบดังกล่าวแล้ว โดยมี สบส. ดูแลเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่มีหมออนามัย และกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการลงไปดูแลสุขภาพประชาชนทุกครัวเรือน อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มศักยภาพของ รพ.สต. และหมออนามัย ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้มีการระบุชัดถึงการให้มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวลงไปช่วยดูแลประชาชนทุกครัวเรือนทั้งประเทศด้วย
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ก็เริ่มมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวลงไปประจำแล้ว อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็มีการพัฒนาโดยการตั้งคลินิกหมอครอบครัว โดยมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวลงไปประจำในอัตรา 3 คนต่อประชากร 30,000 คน เป็นการดูแลในแบบปฐมภูมิ โดยเฉพาะบริเวณเขตพื้นที่ชุมชนเมือง ซึ่งสามารถช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลใหญ่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงได้ โดย สธ. ตั้งเป้าว่า ภายใน 10 ปี จะต้องมีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวประมาณ 6,000 กว่าคน หรือมีอัตราส่วนแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว 1 คนต่อประชากร 10,000 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไปได้ ส่วนหมออนามัยก็ยังทำหน้าที่เป็นกำลังหลักในการดูแลประชาชนเช่นเดิม แต่มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวมาช่วยเสริม รวมถึงยังมีวิชาชีพอื่น ๆ ในการลงไปดูแลประชาชนด้วย
“หมออนามัยยังคงเป็นกำลังสำคัญของระบบสุขภาพประเทศ อย่าได้น้อยใจ เขารู้ตัวดีว่าตัวเองทำงานขนาดไหน ผู้บริหารก็รับรู้ อยากฝาก รพ.สต. ว่า หมออนามัยทั้งประเทศเป็นส่วนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของระบบสุขภาพในประเทศ และไม่เพียงแค่หมออนามัยเท่านั้น แต่อยากฝากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกคน ว่า ทุกคนมีความสำคัญที่สุดต่อระบบบริการสุขภาพ จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปไม่ได้” รมว.สธ. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามกรณีหมออนามัยมีการเรียกร้องเรื่องค่าตอบแทน นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขณะนี้ขอให้พ้นช่วงลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 ส.ค. 2559 ไปก่อน จากนั้นจึงค่อยมาพูดคุยหารือกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่หมออนามัยที่เรียกร้องเรื่องค่าตอบแทน แต่ทุกวิชาชีพเรียกร้องกันหมด ตนไม่อยากให้ทุกคนมองเพียงแค่วิชาชีพตัวเองเท่านั้น แต่อยากให้มองว่าทุกคนมีความสำคัญต่อระบบในการดูแลสุขภาพประชาชน
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดี สบส. กล่าวว่า การคุ้มครองผู้บริโภคถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย คือ 1. ได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ 2. มีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ 3. ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ 4. ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา และ 5. ได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค ทั้งนี้ การคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ สบส. ถือเป็นองค์กรหลักในการคุ้มครองเพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ปลอดภัย สมประโยชน์
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่